รวบ 2 ผัวเมียเช่าบ้านค้ายา อ้างรับจากฝั่งลาว

วันที่ 12 กรกฎาคม 2561 นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดศรีสะเกษ

ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ  ชุดปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอกันทรารมย์ บุกเข้าทำการตรวจสอบ และ จับกุม ตัว นายสิทธิเดช หรือบอย แก้วคำ อายุ 22 ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 11 หมู่ที่ 5 ต.โนนคูณ อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ และ นางสาวกรกฏ หรือ แบม ต้นถาแก้ว อายุ 19 ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 68 หมู่ที่ 2 ต.ไพร อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมยาบ้าของกลาง ซึ่งใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 11 ถุง


รวมยาบ้าจำนวน 2,199 เม็ด โดยได้มาแอบเปิดบ้านเช่าส่งยา ที่บ้านเลขที่ 111/144 ชุมชนบ้านเอื้ออาทร หมู่ที่ 11 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จำหน่ายขายกันมานาน สุดท้ายจนมุม รับสารภาพ รับยาจากฝั่งลาว

ในการบุกเข้าทำการจับกุมวัยรุ่น 2 ผัวเมียดังกล่าว สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งเรื่องร้องเรียนไปยัง นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ (สายตรงผู้ว่า) ว่า ได้มีวัยรุ่น 2 ผัวเมีย ได้มาเช่าบ้านพักในเขตอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และมีพฤติการณ์ใช้สถานที่บ้านหลังดังกล่าวแอบเปิดลักลอบเสพยา และขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในเขตอำเภอกันทรารมย์ และพื้นที่ใกล้เคียง


โดยทุกวันจะมีวัยรุ่นขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์จากต่างถิ่นเข้าออกที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นประจำ สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จำได้นำกำลัง วางแผนจับกุมโดยใช้ระบบ โมเดลศรีสะเกษ สยบยาเสพติด (Sisaket Anti Drug Model) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จังหวัดศรีสะเกษได้พัฒนาและนำร่องเป็นจังหวัดแรกของประเทศ ซึ่งจะแสดงพิกัน แผนที่ ที่อยู่ ภาพถ่ายดาวเทียม ของกูเกิ้ลสตรีทวิว เป็นตัวช่วยในการค้นหาข้อมูล

เส้นทางการเดินทาง และจุดสกัดเพื่อป้องกันการหลบหนี ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุ ตามที่ได้รับแจ้ง พบ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่และแจ้งวัตถุประสงค์ ทั้ง 2 รับว่าได้เสพยาบ้าจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการตรวจค้นบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ พบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 11 ถุง รวมยาบ้าจำนวน 2,199 เม็ด ทั้งสองรับว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริง


โดยสั่งซื้อมาจากหญิงสาวชาวลาว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ทราบว่า เสพ และ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนตำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมยาบ้าของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ดำเนินคดีตามกฎหมาย  และจะได้มีการขยายผลการจับกุมถึงเครือข่ายของขบวนการขายยาบ้ากลุ่มนี้ต่อไป