svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

หุ้นเสียวหมี่เปิดเทรดวันแรกที่ 16.60 ดอลลาร์ฮ่องกง ต่ำกว่าราคา IPO ที่เสนอขาย

หุ้นเสียวหมี่เปิดเทรดวันแรกจันทร์ที่ 9 กรกฎาคมที่ 16.60 ดอลลาร์ฮ่องกง ต่ำกว่าราคา IPO ที่เสนอขายในกรอบ 17-22 ดอลลาร์ฮ่องกง ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่่ 6 กรกฎาคม


ขณะที่จีนเล็งยกระดับการบริหารจัดการทุนทางการเงินของรัฐให้มีประสิทธิภาพ และป้องกันปัจจัยเสี่ยง รวมทั้งการกำกับดูแลสถาบันการเงินของจีน ขณะที่แบงก์ชาติจีนเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศดีดตัวขึ้นแตะ 3.1121 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก.เดือนพฤษภาคม


ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนในช่วงในไตรมาส 2 ปีนี้ ที่เจอแรงเทขายอย่างหนัก จนอ่อนค่าลงถึง 5.4%


1. ราคาหุ้นเสียวหมี่ คอร์ป บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีน เปิดตลาดที่หุ้นละ 16.60 ดอลลาร์ฮ่องกง (2.12 ดอลลาร์สหรัฐ) ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าราคาหุ้น IPO ที่เสนอขายในกรอบ 17-22 ดอลลาร์ฮ่องกง สวนทางดัชนีหุ้นหั่งเส็ง (HSI) ซื้อขายที่ระดับ 28,740 พุ่งขึ้น 424.47 จุด หรือ 1.5% ช่วงเช้าวันนี้

บริษัทเสียวหมี่ทำการโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนก่อนเตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกง ในการเสนอขายหุ้นจำนวน 2,180 ล้านหุ้น ในกรอบราคาที่หุ้นละ 17-22 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือเป็นมูลค่ามาร์เก็ตแคป 48,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง



2. เสียวหมี่ต้องเชิญกับพิษของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม ในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐที่อัตรา 25% เป็นมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์จากทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีมูลค่าถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าเกือบทั้งหมดของการนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐในปีที่แล้วที่มีมูลค่าราว 505,000 ล้านดอลลาร์ โดยพุ่งเป้าที่จะสกัดกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีของจีน

ทั้งนี้ เสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ดำเนินธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่มีกำไรส่วนใหญ่มาจากการขายสมาร์ทโฟนใน 70 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สินค้าของเสียวหมี่มีมากกว่า 100 ชนิด ทั้งสมาร์ทโฟน กล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยมีรายได้รวม 114,600 ล้านหยวน หรือ 17,600 ล้านดอลลาร์ ในปี 2017 เพิ่มขึ้น 67% จากปี 2016



3. คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และคณะรัฐมนตรีจีน เปิดเผยแนวทางยกระดับการบริหารจัดการทุนทางการเงินของรัฐ เพื่อรองรับภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน และยกระดับการปฏิรูปการเงินให้มีความลึกมากยิ่งขึ้น ในการระดมทุนทางการเงินของรัฐให้เป็นหลักประกันที่สำคัญ เพื่อให้ประเทศมีความทันสมัยและมีความมั่นคงทางการเงิน

ทั้งนี้ ยังมีเป้าหมายเพื่อปรับแผนยุทธศาสตร์ของทุนทางการเงินของรัฐมีประสิทธิภาพ รวมทั้งควบคุมดูแลของสถาบันทางการเงินของรัฐ ที่มีกฎหมายและระเบียบกำกับดูแลทุนทางการเงินของรัฐ



4. ธนาคารกลางจีนเผยฐานะทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 3.1121 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 3.1106 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลงตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้

ขณะที่ China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานอัตรากลางของเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลงแตะระดับ 6.6393 หยวนต่อดอลลาร์



5. บรรยากาศความตึงเครียดของสงครามการค้า ได้กระทบต่อประเทศคู่ค้าสำคัญของสหรัฐ โดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงถึง 16.9% ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วง 4.3% และตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 3.3%

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนในช่วงในไตรมาส 2 ปีนี้ ก็เจอแรงเทขายอย่างหนัก อ่อนค่าลงถึง 5.4% แต่ยังอ่อนค่าน้อยกว่าเงินบาทที่อ่อนยวบลงมากที่สุดถึง 6.0% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา


รวมทั้งเงินรูปีของอินเดีย ร่วงลง 5.3% เงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลง 5.0% ดอลลาร์ไต้หวันร่วงลง 4.5% เงินมาเลเซียริงกิตร่วงลง 4.4% เงินรูเปียะห์อินโดนีเซียร่วงลง 4.3% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลง 4/0% เงินเยนญี่ปุ่นร่วงลง 4.0% และเงินฟิลิปปินส์เปโซร่วงลง 2.3%