"ทุเรียนติดเกาะ" เนื้อครีม-หวานมัน ของดี 'เมืองอุตรดิตถ์'

นับเป็นทุเรียนอีกหนึ่งสายพันธุ์ ของ จ.อุตรดิตถ์ ที่รสชาติอร่อย แต่คนพูดถึงน้อย เนื่องจาก "ใจไม่ถึง ไม่ได้ทาน" เพราะต้องเดินทางด้วยเรือเท่านั้น ที่สำคัญราคาไม่แพง กิโลกรัมละ 30 บาทหากไปซื้อถึงแหล่งปลูกเมื่อเรือโดยสารเทียบท่า พ่อค้าแม่ค้าขาประจำ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป ต่างขึ้นไปยังบนเรือเพื่อเลือกซื้อทุเรียนโดยตรงจากชาวสวนใส่เข่งบรรทุกเรือมา ลักษณะและขนาดผลภายนอกไม่ได้แตกต่างจากทุเรียนทั่วๆ ไป ที่จำหน่ายท้องตลาด แต่เมื่อแกะเปลือกพบว่า เนื้อทุเรียนออกสีขาวนวล ซึ่งชาวสวนบ้านห้วยต้าเรียกว่า "ทุเรียนเนื้อครีม" เนื้อเยอะและแห้ง รสชาติหวานมัน เปลือกบางปลอกง่าย

นายทัด ต๊ะอูบ ชาวสวนทุเรียนบ้านห้วยต้า กล่าวว่า บ้านห้วยต้า เป็นหมู่บ้านเดียวที่ตั้งอยู่บนเกาะ กลางเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งชาวบ้านกว่า 600 ชีวิต 147 ครอบครัว ไม่ได้อพยพออกจากที่อยู่อาศัยเดิม แต่ย้ายขึ้นอยู่บนยอดเขาแทน เพื่อให้พ้นน้ำ แม้จะมีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จึงเป็นชาวเกาะมานานกว่า 45 ปี และยังคงประกอบอาชีพเกษตรกรรม และร้อยละ 70 ปลูกทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิม แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีคนรู้จัก เนื่องจากหากจะซื้อหรือรับประทาน ต้องนั่งเรือไปยังหมู่บ้าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือชาวสวนจ้างเรือโดยสารมาส่งยังฝั่ง เป็นการเดินทางด้วยเรือเพียงทางเดียวเท่านั้น
และเรือโดยสารมาวันเว้นวัน วันละ 1 ลำ มาเช้าเย็นกลับ แต่ถ้าเป็นเรือหางยาวของชาวสวนเอง จะขนมาทุกวัน แต่ปริมาณไม่มากนัก ทุเรียนบ้านห้วยต้า หรือทุเรียนติดเกาะ เนื้อครีม รสชาติหวานมัน เป็นทุเรียนที่ปลูกตามธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ปลอดสาร ที่สำคัญราคาถูกมาก หากนั่งเรือไปทานถึงสวน กิโลกรัมละ 30 บาท หรือ สั่งเพื่อขนส่งทางเรือ ราคาส่งกิโลกรัมละ 50 บาท ปลีก 70 บาท ผลผลิตปีนี้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณ 2,000 ตันหากจะรอซื้อที่ท่าเรือ เขื่อนดิน อ.ท่าปลา ก็ได้

"แต่จะให้ อะเมซิ่ง มีที่นี่ที่เดียว ครั้งหนึ่งในชีวิต เลือกนั่งเรือชมบรรยากาศ กลางเขื่อนสิริกิติ์ ไปยังบ้านห้วยต้า ยังคงความเป็นธรรมชาติและเลือกซื้อทุเรียนถึงสวน นั่งรับประทานบนยอดเขาบนเกาะ ได้ทั้งทุเรียนราคาถูก และสุดฟินกับบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากทีเดียว แต่บอกไว้ก่อนว่า ในหมู่บ้านไม่มีรถยนต์ ไฟฟ้าเปิดใช้เป็นเวลา สัญญาณโทรศัพท์ไม่มี วิถีชีวิตดั้งเดิมจริงๆ" นายทัด กล่าว