svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น

แฟนเพจ Facebook กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุข้อเขียนของ วิสูจน์ สุพงษ์ #ลูกรัง72 พร้อมประกอบภาพนกกระแตน จากแฟนเพจ bird home "นกล่า...แห่งสายน้ำ"

ถ้าพูดถึงนกกระเต็นหลายๆคนนึกถึง นกตัวเล็ก สีสันสดใน ปากแดงหนายาว จับปลาเก่ง เกาะพักอยู่ริมธารน้ำ ขอนไม้ริมตลิ่ง หรือขอบสระต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ที่นกกระเต็นทุกชนิดที่จะชื่นชอบ การกินปลาเป็นอาหารหลักเพราะนกกระเต็นในบางชนิดที่อยู่ในป่าดิบเช่น นกกระเต็นลาย นกกระเต็นสร้อยคอสีน้ำตาล ที่ชอบการล่าสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก แมลง แมงต่างๆกินเป็นอาหาร และอีกชนิดหนึ่งที่พบตามป่าชายเลน คือ นกกินเปี้ยว ที่จะชื่นชอบการจับปูกินเป็นอาหาร ในประเทศไทยพบนกกระเต็นทั้งหมด 16 ชนิด ซึ่งทั้งชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่นและชนิดพันธุ์อพยพ ส่วนใหญ่เป็นนกกระเต็นที่ล่าจับปลากินเป็นอาหารหลัก พบตามแม่น้ำ ลำธาร บึงน้ำ และแหล่งน้ำต่างๆทั่วไป การที่มีนกกระเต็นอยู่ในพื้นที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำแห่งนั้นว่ามีปลาอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เพียงพอให้นกกระเต็นดำชีชีวิตและสืบต่อเผ่าพันธุ์ต่อไปได้


แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการรายงานการพบเห็นนกกระเต็นชนิดพันธุ์ที่หายาก ทั้งเฉพาะถิ่นและชนิดพันธุ์อพยพมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำสายหลักอย่างแม่น้ำปราณบุรีและแม่น้ำเพชรบุรี รวมทั้งมีแหล่งทะเลสาบขนาดใหญ่เหนือเขื่อนแก่งกระจาน ทำให้ชนิดพันธุ์ปลาน้ำจืดชุกชุมจากการสำรวจพบปลาน้ำจืดถึง 101 ชนิด ส่งผลให้นกกระเต็นและนกน้ำหลายชนิด เลือกอพยพสร้างรัง เลี้ยงลูกในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งมีรายงานการพบนกกระเต็นทั้งหมด 13 ชนิด จาก 16 ชนิดที่พบในไทยดังนี้


แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น



1. กระเต็นน้อยธรรมดา ขนลำตัวสีน้ำเงินเหลือบเขียว หลังและตะโพกฟ้าวาว ขนคลุมหูสีน้ำตาลแดงต่อกับแถบสีขาว คอขาว ลำตัวด้านล่างสีส้มแกมน้ำตาล แข้งและตีนแดง ตัวผู้มีปากดำ, ตัวเมีย มีปากล่างสีน้ำตาลแดง ส่งเสียงร้องแหลมสูง "ชิ ชิ ชิ๊" พบได้ตามแหล่งน้ำต่างๆ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม ถึงความสูง 1,800 เมตร นกอพยพ พบบ่อยมาก


2. กระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน คล้ายนกกระเต็นน้อยธรรมดา แต่สีเข้มกว่าและไม่มีขนคลุมหูสีน้าตาลแดง หัว ปีก หลัง และหางสีน้ำเงิน กลางหลังสีฟ้าเข้ม ท้องสีน้ำตาลแดง แข้งและตีนแดง ตัวเมีย มีปากล่างสีแดงคล้ำพบตามหนองน้ำและลำธารในป่า ความสูงไม่เกิน 900 เมตร นกประจำถิ่น พบไม่บ่อย


3. กระเต็นน้อยสามนิ้วหลังดำ มีลักษณะปากแดงสด หัว ตะโพก และหางสีชมพูแกมม่วง หน้าเหลืองส้ม ขนคลุมหูมีแถบน้ำเงินเข้มและขาว หน้าผากมีจุดสีน้ำเงินเข้ม ลำตัวด้านล่างเหลืองแกมส้ม แข้งและตีนแดง พบตามลำธาร และแหล่งน้ำในป่า ความสูงไม่เกิน 900 เมตร ขณะอพยพผ่าน พบตามสวนและป่าชายเลนด้วย นกประจำถิ่น และนกอพยพผ่าน พบไม่บ่อย


4. กระเต็นน้อยสามนิ้วหลังแดง ลักษณะรูปร่างคล้ายนกกระเต็นน้อยสามนิ้วหลังดำ แต่ขนคลุมไหล่และหลังสีชมพูแกมม่วง ไม่มีแถบน้ำเงินที่ขนคลุมหูและหน้าผาก พบตามแหล่งน้ำ และลำธารในป่า นกประจำถิ่น พบไม่บ่อย


5. กระเต็นน้อยแถบอกดำหัว ปีก และหลังตอนบนสีน้ำเงินแกมดำ ปีกมีจุดวาวสีน้ำเงิน หัวตาสีน้ำตาลแดง ข้างคอมีแถบขาวและน้ำตาลแดง กลางหลังสีฟ้าวาว แข้งและตีนแดง ตัวผู้สีขนบริเวณคอและท้องขาว มีแถบสีน้ำเงินคล้ำคาดอก สีข้างน้ำตาล, ตัวเมียมีขนคอขาว อกและท้องสีน้ำตาลแดงถิ่นอาศัย : ป่าดิบ ความสูงไม่เกิน 900 เมตร นกประจำถิ่น ค่อนข้างหายาก

6. กระเต็นอกขาวหัว หลังตอนบน ไหล่ และท้องสีน้ำตาลเข้ม คอและอกขาว ปากแดงสด ปีก หลัง และหางฟ้าเข้ม หลังตอนล่างและตะโพกฟ้าวาว ขาและตีนแดง ขณะบินมีแถบขาวใหญ่ที่ปีก มีเสียงร้อง แหลมสั่น "ครี้ ครี้ ครี้" และร้องเตือน "แก๊ก แก๊ก แก๊ก" พบอาศัยตาม ทุ่งนา แหล่งน้ำในที่โล่ง ถึงระดับความสูง 1,500 เมตร พบในพื้นที่แห้งแล้งกว่าชนิดอื่น นกประจำถิ่น พบบ่อยมาก


7. กระเต็นหัวดำ : หัวดำ ปากแดงสด รอบคอและอกขาวไล่ระดับเป็นสีเนื้อแกมน้ำตาล ไหล่ดำ ปีก หลัง และหางสีน้ำเงินสด ขณะบินมีแถบขาวใหญ่ที่ปีก มีเสียงร้อง แหลมสั่น "คี้ คี้ คี้" ถิ่นอาศัยพบตาม ป่าชายเลน ทุ่งนา พื้นที่เกษตรกรรม และแหล่งน้ำต่างๆ ส่วนใหญ่พบในที่ราบ ช่วงอพยพผ่าน นกอพยพผ่าน พบไม่บ่อยในป่าหลายประเภท พบได้ถึงระดับความสูง 900 เมตร นกอพยพ พบบ่อยมาก


8. กระเต็นใหญ่ธรรมดา รูปร่างและขนาดคล้ายนกกระเต็นใหญ่ปีกสีน้ำตาล แต่หัวสีเทา อกตอนบนมีลายเกร็ดสีน้ำตาลจางๆ ปีก หลัง และหางสีน้ำเงินคล้ำ หลังตอนล่างและตะโพกสีฟ้าสด เสียงร้องแหลม 2 พยางค์ "ติ้ว ติ้ว"เสียงร้องเตือน ดัง "แก๊ก แก๊ก แก๊ก" แหบดัง พบอาศัยตาม ลำคลอง แหล่งน้ำจืดต่างๆ ทั้งในป่าและที่เปิดโล่ง บางครั้งพบในป่ายเลน ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ขนาดต่ำ นกประจำถิ่น พบไม่บ่อย


9. กระเต็นแดง มีลำตัวด้านบนสีชมพูแกมม่วง ท้องสีน้ำตาลแดงจางๆ ปากบนแดงสด ปากล่างสีน้ำตาลเหลือง ตะโพกขาวแซมสีฟ้าวาว เสียงร้อง แหลมสั่น "คี่ว อ คี่วว"เป็นนกประจำถิ่น พบไม่บ่อยในป่าชายเลนและลำน้ำในป่าที่ราบต่ำ นกอพยพผ่าน พบไม่บ่อยในป่าหลายประเภท ถึงระดับความสูงไม่เกิน 900 เมตร


10. กระเต็นลาย ในปากแดงสด หางยาวตัวผู้ หัวสีน้ำตาลเข้ม อกและท้องสีน้ำตาลแดงแกมเหลือง คอและกลางท้องขาว กระหม่อม หลัง และหางเป็นลายขวางสีดำสลับฟ้าสด, ตัวเมียมีขนหัว หลังและหางเป็นลายขวางสีน้ำตาลสลับดำ ลำตัวด้านล่างขาว อกและข้างลำตัวมีลายเกร็ดสีดำ ส่งเสียงร้องแหลม "ชิ วิอิ้ว ชิ วิอิ้ว" ติดต่อกันหลายครั้ง พบตาม ป่าดิบและป่าผลัดใบ ที่ราบถึงความสูง 1,000 เมตร นกประจำถิ่น พบค่อนข้างบ่อย

11. กระเต็นสร้อยคอสีน้ำตาลปากสีน้ำตาลเหลืองจางๆ หัวและกระหม่อมเขียว แถบตาดำ แถบจากมุมปากถึงรอบคอน้ำตาลแดง แถบจากโคนปากสีน้ำเงินเข้ม ตะโพกสีฟ้าวาว หางน้ำเงิน ลำตัวด้านล่างน้ำตาลแดงแกมเหลือง ตัวผู้มีขนหลังและปีกน้ำเงินเข้ม, ตัวเมียขนหลังและปีกเขียวคล้ำแกมดำ มีจุดขาวกระจายเสียงร้อง แหลม คล้ายผิวปาก "ควี้ ควี้ ควี้" ติดต่อกัน เสียงร้องเตือน " คแวแอ๊ว คแวแอ๊ว" เสียงสั่นท้ายพยางค์พบอาศัยตามป่าดิบ ที่ราบถึงความสูง 1,200 เมตร นกประจำถิ่น หายาก


12. กระเต็นขาวดำใหญ่ ขนาดใหญ่มาก ปากยาวใหญ่สีดำ ขนหัวเป็นหงอนฟู หัวและลำตัวด้านบนสีดำแซมจุดขาวโดยตลอด มุมปากถึงข้างคอเป็นแถบใหญ่ ท้องขาว อกมีแถบดำแซมน้ำตาลแดง ข้างลำตัวมีลายดำจางๆ ตัวผู้ ใต้ปีกขาว, ตัวเมียใต้ปีกน้ำตาลแดงเสียงร้อง "แอ๊บ แอ๊บ" แหบสั้น พบอาศัยลำน้ำในป่าโปร่ง ที่ราบ บางครั้งพบถึงความสูง 1,200 เมตร นกประจำถิ่น หายาก


13. กระเต็นปักหลักปากแหลมยาวสีดำ หัวมีหงอนสั้นๆ แถบตาดำ คิ้วขาว ขนสลับลายดำขาว เวลาบินปีกมีแถบขาวขนาดใหญ่ ตัวผู้มี แถบอก 2 แถบ แถบบนกว้างกว่าแถบล่าง, ตัวเมียมีแถบอก 1 แถบ ตรงกลางมักไม่ต่อเนื่อง เสียงร้อง "ชิชิริ ชิชิริ" แหลมสั่น พบอาศัยตามแหล่งน้ำจืดในที่ราบ นกประจำถิ่น พบค่อนข้างบ่อยในบางพื้นที่



แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น

แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น


แก่งกระจาน...อุทยานฯ นกกระเต็น