svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบตัวโจรย่องเบา 8 ครั้งรวด อ้างตกงาน-ป่วยติดเชื้อ HIV

23 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จับกุมหัวขโมยหนุ่มตระเวนก่อเหตุย่องเบา 8 ครั้งรวด เจ้าตัวอ้าง ตกงาน และป่วยติดเชื้อ "เอชไอวี" ต้องหาเงินรักษาตัวเองและภรรยา

ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ควบคุมตัวนายมนัส หรือต้น เรืองแก้ว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ถนนราชนิคม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตระเวนก่อเหตุในตัวเมืองนครศรีธรรมราชถึง 8 ครั้งรวด มีผู้เสียหายหลายราย โดยหนึ่งในนั้นคือ บริษัทซิงเกอร์ จำกัด สาขาย่อยสถานีรถไฟ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ถูกนายมนัส เข้าก่อเหตุถึง 4 ครั้งรวดในช่วงเวลา 2 เดือน นอกจากนั้นยังมีร้านค้าและบ้านในหมู่บ้านสัมฤทธิ์ประสงค์ อีก 4 ครั้ง และยังพบว่า มีการก่อเหตุในจุดอื่นๆอีก แต่ไม่ได้มีการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

รวบตัวโจรย่องเบา 8 ครั้งรวด อ้างตกงาน-ป่วยติดเชื้อ HIV




โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหารายนี้เข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริษัทซิงเกอร์ เป็นจุดแรกที่มีการก่อเหตุรวม 4 ครั้ง นายมนัส ได้ให้ความร่วมมือนำชี้ที่เกิดเหตุและทำแผนอย่างเต็มใจ โดยอ้างว่า ที่ทำไปนั้น เนื่องจากตกงานขาดรายได้ รวมทั้งเป็นโรคเอชไอวี ทั้งตัวเองและภรรยา จึงจำเป็นต้องหาเงินไปรักษาตัวและใช้จ่ายประจำวัน เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว จะนำไปขายในราคาถูกตามร้านรับจำนำต่างๆ

รวบตัวโจรย่องเบา 8 ครั้งรวด อ้างตกงาน-ป่วยติดเชื้อ HIV




ขณะที่ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุยังจุดต่างๆ บางจุดสามารถบันทึกรอยสักบนมือและแขนไว้ได้ รวมทั้งใบหน้า และเมื่อนำมาประมวลพบว่า เป็นคนเดียวกัน หลังจากนั้นจึงติดตามไปจับกุมตัวได้ที่โรงพยาบาล เบื้องต้นนั้นให้การปฏิเสธ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานพร้อมทั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆมาให้ดู จึงยอมรับสารภาพและนำมาทำแผน 

รวบตัวโจรย่องเบา 8 ครั้งรวด อ้างตกงาน-ป่วยติดเชื้อ HIV


รวบตัวโจรย่องเบา 8 ครั้งรวด อ้างตกงาน-ป่วยติดเชื้อ HIV




นายจิรพัฒน์ แสนเสนา ผู้จัดการบริษัทซิงเกอร์ จำกัด สาขาย่อยสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น ในส่วนที่คนร้ายได้ทรัพย์ไปนั้นมีมูลค่าไม่กี่หมื่นบาท แต่ที่เสียหายไปมากกว่าคือ การที่ต้องเพิ่มการป้องกันทรัพย์สิน ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม ซ่อมแซมประตูที่ถูกงัดแงะ เพิ่มเครื่องกีดกันคนร้าย รวมแล้วเกือบ 8 หมื่นบาท น่าเจ็บใจมากกว่า แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนมีความอุ่นใจมากขึ้น

logoline