1. รถโดยสารปรับอากาศคันที่เกิดเหตุเป็นรถของบริษัท พรพินทรานสปอร์ต จำกัด ยี่ห้อ GOLDEN DRAGON (NGV) ผลิตที่ประเทศจีน มีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ระบบไฟฟ้าขัดข้องภายในห้องเครื่องยนต์ (ไฟช๊อต) และเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ แต่พนักงานประจำรถแจ้งให้ผู้โดยสารลงจากรถได้ทัน ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
โดยบริษัท พรพินทรานสปอร์ต จำกัด ได้แจ้งบริษัท ฟินิคประกันภัย จำกัด ส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบรถโดยสาร และประสานพนักงานสอบสวน เพื่อทำการเคลื่อนย้ายรถโดยสารคันที่เกิดเหตุออกจากจุดเกิดเหตุไปจอดที่อู่รังสิตแล้ว และได้ประสาน ขสมก.ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสภาพรถโดยสารในช่วงบ่ายวันนี้
2. ขสมก.ได้แจ้งให้บริษัท พรพินทรานสปอร์ต จำกัด ส่งตัวพนักงานขับรถโดยสารคันที่เกิดเหตุ มารายงานตัวเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง ในวันนี้ เวลา 14.00 - 15.00 น. และให้บริษัทฯ ตรวจสอบสภาพรถโดยสารอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้พร้อมสรุปรายงาน และร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม 2561
3. ขสมก.ได้ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นำรถโดยสารปรับอากาศเอกชนร่วมบริการสาย 40 ยี่ห้อ GOLDEN DRAGON (NGV) ไปดำเนินการตรวจสภาพอย่างละเอียดทุกคัน ในวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561 เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
4. สำหรับรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 100 คันของ ขสมก.ที่วิ่งให้บริการประชาชนอยู่ในขณะนี้ เป็นรถโดยสารปรับอากาศยี่ห้อ Bonluck ส่วนประกอบตัวถังและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ผลิตจากวัสดุไม่ลามไฟ และมีใบ certificate รับรองคุณภาพมาตรฐานการผลิต จึงทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่า รถโดยสารปรับอากาศรุ่นใหม่ของ ขสมก.มีความปลอดภัยจากการเกิดเพลิงไหม้