
อาจารย์จรัญ อธิบายว่า สถานการณ์ของไอเอส หลังจากถูกปราบปรามอย่างหนักในอิรักและซีเรีย แตกออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นคนนอกภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็ตัดสินใจกลับบ้าน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้อีก กลุ่มที่ 2 เป็นคนนอกภูมิภาคตะวันออกกลางเหมือนกัน และแม้จะกลับบ้าน แต่ยังหาโอกาสตอบโต้ฝ่ายที่ปราบปรามตัวเองอยู่ พวกนี้อยู่ในยุโรป และอเมริกา ซึ่งที่ผ่านมาก็ก่อเหตุรุนแรงในรูปแบบต่างๆ หลายครั้ง กลุ่มที่ 3 คือพวกที่เป็นชาวตะวันออกกลางอยู่แล้ว กลุ่มนี้ก็เคลื่อนไหวในพื้นที่ต่อไป
ส่วนไอเอสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อสู้อยู่แล้วใน 3 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยกลุ่มที่ต่อสู้ เช่น อาบูไซยาฟ ประกาศสวามิภักดิ์กับไอเอส มีนักรบบางส่วนเดินทางไปร่วมรบที่ตะวันออกกลาง บางส่วนไม่ได้เดินทางไป เมื่อไอเอสที่อิรักและซีเรียถูกปราบ คนเหล่านี้ก็กลับมาเคลื่อนไหวต่อในพื้นที่เดิม คือ 3 ประเทศนี้ และที่ผ่านมามีการพูดถึงไทยว่า ไม่เคยมีไอเอส แต่จริงๆ แล้วมีข้อมูลว่า มีคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียนอยู่ที่ตะวันออกกลาง และสนใจแนวทางบของไอเอส รวมทั้งไปอยู่ร่วมกับไอเอส แต่ก็เป็นข้อมูลที่ไม่ชัดเจนมากนัก
นอกจากนั้นที่ผ่านมายังมีข่าวว่า สมาชิกไอเอสเดินทางผ่านไทย หรือพยายามเข้ามาพำนักในไทย แต่ฝ่ายความมั่นคงไทยก็ผลักดันออกไป
ฉะนั้นสถานการณ์ไอเอสที่เกี่ยวกับไทยในขณะนี้ คือมีผู้สนับสนุนแนวทางของไอเอสจริง แต่ไม่ได้ไปร่วมรบ หรือจะเตรียมตั้งรัฐอิสลามในไทย เพราะเมื่อไอเอสใช้ความรุนแรง ผู้ที่เคยนิยมชมชอบก็ถอยห่างออกมา เพราะคนไทยหรือมุสลิมไทยไม่ได้มีจริต หรือนิยมความรุนแรงแบบไอเอส รวมทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ส่วนท่าทีของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงไทย อาจารย์จรัญ เสนอว่า ควรอยู่นิ่งๆ ไม่ต้องออกแอคชั่นว่าจะร่วมไล่ล่าไอเอส เพราะไทยไม่ใช่เป้าหมายของไอเอส
อาจารย์จรัญ บอกกับล่าความจริงด้วยว่า เท่าที่ติดตามการเคลื่อนไหวของไอเอสมาหลายปี คนกลุ่มนี้จะก่อเหตุรุนแรงเพื่อตอบโต้ชาติที่รังแกตนเองเท่านั้น ซึ่งไทยไม่เกี่ยว และไม่น่าจะอยู่ในเป้าหมาย จึงไม่ต้องตกใจมากกับข่าวคนไทยไปร่วมกับไอเอส เพราะเชื่อว่าอย่างมากที่สุดก็แค่สนับสนุนแนวคิด ไม่ได้ร่วมก่อเหตุรุนแรง