ลงพื้นที่ตรวจรถเมล์ NGV เขตเดินรถที่ 5

หลังจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้รับมอบรถเมล์ NGV 100 คัน จากบริษัท ช.ทวี จำกัด ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเริ่มทยอยวิ่งให้บริการหลังวันที่ 20 มีนาคม ในราคาค่าโดยสารเท่าเดิม โดยให้บริการในเส้นทางถนนพระราม 2 จำนวน 8 สาย, เส้นทางทิศเหนือกรุงเทพ (รังสิต-ดอนเมือง) 8 สาย, เส้นมีนบุรี-สวนสยาม 4 สาย, เส้นสมุทรปราการ-สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ 4 สาย โดยแบ่งจอเที่อู่พระประแดง 70 คัน และอู่แสมดำ 30 คัน คาดว่าบริษัทเอกชนจะส่งมอบรถเมล์ NGV ใหม่ให้ ขสมก. ครบ 489 คัน ประมาณเดือนมิถุนายน 2561

ด้านคนขับรถโดยสาร NGV ใหม่ สาย 140 ธนบูลย์ คงเมือง บอกว่า หลังจากที่ได้ขับรถ NGV คันใหม่พบว่าสะดวกสบายกว่าคันเก่า แม้ระบบการขับจะแตกต่างจากคันเดิมเล็กน้อย ส่วนเสียงตอบรับผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็พึงพอใจกับการใช้บริการรถคันใหม่ เช่นเดียวกับคนเก็บค่าโดยสาร บุษกร ปานพรหมมา ที่เห็นด้วยว่ารถเมล์คันใหม่กว้างขวาง เดินสะดวก และแอร์เย็นดี

ด้านปัญหาที่พบหลังจากพูดคุยกับหลายๆคน พบว่า มีเรื่องเกียร์กระตุกเวลาเข้าป้าย วิ่งไม่ราบลื่น กระทบต่อผู้โดยสารที่ยืน นอกจากนี้เสียงจากด้านหลังรถยังดังกว่าคันเก่า รบกวนผู้โดยสารด้านหลังด้วย ส่วนกรณีรถเมล์เอ็นจีวีใหม่สาย 138 เกิดเครื่องยนต์ดับ หลังจากวิ่งลงสะพานพระราม 9 แม้คนขับจะพยายามสตาร์ทใหม่ แต่ไม่ติด ทั้งๆที่แบตเตอรี่ยังคงทำงานอยู่ จนเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่รถจะเสีย รถใหม่อาจจะต้องปรับจูนระบบหลายๆอย่าง ถ้าหากเจอปัญหาก็ต้องค่อยๆแก้ไป ถือว่าไม่กระทบความเชื่อมั่นต่อการให้บริการ ก่อนหน้านี้ทาง ขสมก. ยอมรับว่ารถใหม่ อาจมีการขัดข้องบ้าง เนื่องจากต้องปรับอุปกรณ์ให้เข้าที่ ซึ่งได้กำชับบริษัทคู่สัญญาแล้วว่าให้ระมัดระวัง และตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆภายในรถเมล์ใหม่เอ็นจีวี เพื่อให้เกิดการไม่ขัดข้องอีก
ส่วนผลประกอบการ ขสมก. คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากมีรถเมล์ใหม่เข้ามาบริการ เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าเชื้อเพลิงได้ 50% ค่าบำรุงถูกลงถึง 50% ทำให้ประสิทธิภาพการบริหารจัดการดีขึ้น