เปิดขบวนการงาบงบ "กองทุนเสมา" มีข้าราชการเอี่ยวเพียบ

เเม้ขณะนี้จะมีเพียง 'นางรจนา สินที' อดีตข้าราชการระดับซี 8 ของกระทรวงศึกษาธิการเพียงคนเดียว ที่ออกมายอมรับสารภาพว่า ทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต และถูกกรรมการตรวจสอบวินัย ตัดสินลงโทษขั้นสูงสุด คือไล่ออกจากราชการ ด้วยมติ 7 ต่อ 0 เสียง แต่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือป.ป.ท. เชื่อว่า นางรจนาอาจจะไม่ได้ทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว เนื่องจากแผนประทุษกรรมการทุจริตเงินกองทุนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า มีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้างแผนประทุษกรรม ที่กรรมการ ป.ป.ท.ตรวจพบ เป็นลักษณะเดียวกับที่กระทรวงศึกษาธิการตรวจพบ โดยในช่วงปี 2550-2561 มีข้าราชการในกระทรวงกว่า 50 คน เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เมื่อตรวจสอบลึกลงไปพบว่า มีบุคคลที่มีตัวตนจริงเพียง 20 กว่าคน แต่จำนวนที่ซ้ำ เนื่องจากหมุนเวียนหน้าที่กันทำตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบลึกลงไปพบว่า การทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มีช่องโหว่หลายขั้นตอน เริ่มจากสถานศึกษา ส่งรายชื่อเด็กที่ขอรับทุน เพื่อจัดทำเอกสารเสนอที่ประชุม ให้พิจารณาคุณสมบัติ โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือรองปลัดเป็นประธาน เมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว จะส่งเรื่องให้นางรจนาดำเนินการต่อ โดยขั้นตอนนี้ ป.ป.ท. พบพิรุธในใบเสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติขอรับทุน หลังจากนำเอกสาร 2 ฉบับมาเปรียบเทียบกัน โดยฉบับที่สมบูรณ์ มีการแนบเลขบัญชีสถานศึกษามาพร้อมใบปะหน้า ส่วนอีกฉบับไม่ปรากฎเลขบัญชีผู้รับโอน เหมือนจงใจเปิดช่องให้สอดแทรกบัญชีบุคคลอื่นได้

ช่องโหว่ที่ปล่อยให้เกิดการทุจริต คือ เมื่อเอกสารขอรับทุนผ่านการพิจารณา นางรจนา จะส่งเรื่องต่อไปให้ผู้บังคับบัญชาเซ็นอนุมัติ ตั้งแต่ ผอ.สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษาหัวหน้ากลุ่มบริหารการคลังและสินทรัพย์ สำนักอำนวยการ ผอ.สำนักอำนวยการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปจนถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตลอด 10 ปีที่ว่านี้ ผ่านการบริหารของปลัดกระทรวงศึกษาธิการถึง 10 คนเมื่อผู้บังคับบัญชาอนุมัติแล้ว จะส่งเรื่องต่อไปให้งานคลัง ของสป.ศธ. เป็นผู้เบิกจ่ายเงินทุน และโอนไปยังสถานศึกษา จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนรู้เห็นเป็นใจกับนางรจนา