จับหัวหน้าแก๊งโจรกรรมรถ ตามปฎิทินหมายจับลำดับที่ 5 และ 9 ค่าหัว 1 แสนบาท
ตำรวจจับ 4 คนร้าย แก๊งปลอมเล่มทะเบียน และภาษีรถ พร้อมเอกสารราชการปลอมและอุปกรณ์การผลิตหลายรายการ ตรวจสอบพบเป็นผู้ต้องหา ตามปฎิทินหมายจับโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ศปจร.น.ลำดับที่ 5 และลำดับที่ 9 ค่าหัว 100,000 บาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.หัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(ศปจร.น.) , พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว ผกก.สส.บก.น.6 , พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รอง ผกก.สส.บก.น.5 , ร.ต.ท.ธนภัทร กำลังแรง รองสวป.สน.บางเขน ชุดปฎิบัติการ ศปจร.น. เข้าทำการจับกุมนายธงไชย หรือแบงค์ อภิยางกูล อายุ 27 ปี นายพิเชษฐ์ หรือแว่น เอี่ยมโอษฐ อายุ 45 ปี นายบูรพา หรือบู มามาก อายุ 22 ปี และน.ส.สาวภา หรือสาว เย็นแย้ม อายุ 23 ปี พร้อมของกลางบิลส่งของชั่วคราว 1 เล่ม TAG EMS 7 เล่ม ใบคู่มือจดทะเบียน 9 เล่มพร้อมสำเนาหน้าปกและสำเนาไส้ในจดทะเบียนรถ บัตร PVC เปล่า 91 ใบ บัตร PVC แบบมีแผ่นแม่เหล็ก 28 ใบ บัตร PVC แบบมีสมาร์ทการ์ด 14 ใบ ใบขับขี่ 28 ใบ ตรายาง 6 อัน แผ่นพลาสติกใส 1 หลอด เอกสารพร้อมัดส่ง 2 ชุด ป้ายภาษีพร้อมจัดทำ 467 ป้าย แผ่นสัญลักษณ์ ขบ 200 ใบ เครื่องรีดแผ่นพลาสติก 1 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ซีพียู 1 เครื่องแป้นพิมพ์พร้อมเม้าส์ 1 ชุด เครื่องปริ้นท์ 1 เครื่อง ซองจดหมายสีน้ำตาล ขนาดเล็ก 4 แพ็ค แผ่นรองตัดกระดาษ 1 แผ่น โดยจับกุมนายธงไชยและนายพิเชษฐ์ ได้ที่บ้านเช่าใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จับกุมนายบูรพาและน.ส.สาวภา ได้บริเวณริมถนนแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า จากการขยายผลจับกุมนายชานนท์ พงษ์ปิ่น อายุ 34 ปี และนายสุภัทร รัตโนดม อายุ 43 ปี ที่เปิดเพจเฟซบุ๊ก ที่จำหน่ายเอกสารราชการปลอม เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 60 ต่อมาทางชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า มีผู้ผลิตเอกสารราชการปลอมยังหลบหนี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งของผู้ต้องหาทั้งสอง จึงเฝ้าสืบสวนติดตามพบว่า นายธงไชย และนายพิเชษฐ์ ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ในการผลิต เพื่อส่งจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าตามออเดอร์ และเป็นผู้ต้องหาตามปฎิทินหมายจับโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ The most wanted 2018 by ศปจร.น.ลำดับที่ 5 และลำดับที่ 9 ค่าตัว 100,000 บาท หลบซ่อนตัวอยู่ใน จ.ภูเก็ต จึงเฝ้าติดตามและสามารถจับกุมเอาไว้ได้
โดยจากหลักฐานที่พบสามารถขยายผลจับกุมนายบูรพาและน.ส.สาวภา ซึ่งมีหน้าที่เปิดเฟซบุ๊กหาลูกค้า,เปิดลัญชีรับโอนเงิน และไปรับสินค้าที่นายธงไชยและนายพิเชษฐ์ ส่งมาให้กับคลังสินค้าสายการบินแห่งหนึ่งภายในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ก่อนนายบูรพา และนางสาวสาวภา จะมารับสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าที่ไปรษณีย์ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ
จากแนวทางการสืบสวนนายธงไชยและนายพิเชษฐ์ รับทำเอกสารป้ายภาษีในราคา 1,700 บาท เล่มทะเบียนรถยนต์และรถจยย. 3,000-5,000 บาท โดยพบเอกสารการส่งให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 1,000 ราย มีรายได้จากการผลิตเอกสารราชการปลอมรายใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเงินหมุนเวียนเดือนละ 1,000,000 บาท สำหรับนายธงชัยมีหมายจับที่ สน.ประชาชื่น สภ.พัทยา จ.ชลบุรี และ สน.บางนา อย่างละ 1 หมาย ส่วนนายพิเชษฐ์ มีหมายจับ สน.ประชาชื่น 1 หมาย เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งหมด ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป