ขึ้นป้ายประณาม! แอบทิ้งขยะลงแม่น้ำน่าน
หนุ่มใหญ่เมืองพิชัย เหลืออด ขึ้นป้ายประณาม หลังมีคนแอบลักลอบขนขยะทิ้งลงแม่น้ำน่านในช่วงกลางคืน ไม่แคร์ใคร จนเกิดคราบน้ำมัน ปลาตาย
วันที่ 15 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ข้ามแม่น้ำน่าน ระหว่างหมู่ 3 และหมู่ 4 ต.ท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายคเจน คำจุ้ย อายุ 38 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ท่าสัก ได้นำป้ายขนาดต่างๆ ที่บรรจงเขียนด้วยตัวเอง ลงบนแผ่นผ้า ป้ายไวนิลและไม้อัดเก่า ติดตามขอบสะพาน หลังพบว่าช่วงกลางคืน หรือใกล้รุ่ง มีประชาชนแอบลักลอบนำขยะจำนวนมากใส่รถยนต์มาโยนทิ้งลงแม่น้ำน่าน จากบนสะพานดังกล่าว จึงเขียนป้ายที่มีข้อความ ในลักษณะปราม สร้างจิตสำนึก ให้หยุดพฤติกรรม เช่น "ทิ้งลงแม่น้ำทำไม" , "ห้ามทิ้งขยะลงแม่น้ำ" , "ห้ามทิ้งขยะ จะถ่ายรูปออกสื่อ" หลังพบริมฝั่งแม่น้ำเริ่มมีคราบน้ำมัน ปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงในกระชังทยอยตาย และไม่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะมีขยะและเศษแก้วจมใต้แม่น้ำ
นายคเจน กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ติดแม่น้ำน่าน ตลอด 10 ปี ทุกค่ำคืน กลางดึก จะได้ยินเสียงดังกลางน้ำน่าน ซึ่งเกิดจากถุงดำหรือกระสอบ ที่ชาวบ้านใส่ขยะ กระทบกับผิวน้ำ ความถี่ของเสียงดังกล่าวเพิ่มขึ้นๆ เมื่อลุกมาดูพบว่าขยะจำนวนมากจะขนใส่กระบะรถยนต์ มากกว่า 10 กระสอบต่อ1 ราย ความแรงของถุงขยะกับผิวน้ำกระทบกัน บางครั้งแตกกระจัดกระจายเต็มผิวน้ำ
ขยะมีทุกชนิด ทั้งจากครัวเรือน ร้านค้า แม้กระทั้งขยะเป็นพิษ ปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เชื่อว่าคนที่นำมาทิ้ง คิดว่า โยนทิ้งขยะก็ไหลไปกับสายน้ำ ไม่ตกค้าง แต่ความเป็นจริงขยะที่มีน้ำหนักก็จมใต้น้ำ กองอยู่บนฝั่ง หรือโยนไม่พ้นติดขอบสะพานเต็มไปหมด ส่งกลิ่นเหม็นอีกต่างหาก
"น้ำน่านจากที่เคยลงเล่นและอาบได้ ปัจจุบันไม่มีใครกล้า เพราะกลัวเศษแก้ว ขวด เหล็ก ริมฝั่งมีคราบน้ำมันเกาะ กระชังปลาเริ่มรับผลกระทบ ที่สำคัญระบบประปาหมู่บ้านก็ใช้น้ำจากแม่น้ำน่านเป็นแหล่งน้ำดิบ ผมจึงตัดสินใจ เขียนป้ายที่มีข้อความ เชิงป้องปราม ให้หยุดพฤติกรรมการทิ้งขยะลงแม่น้ำน่าน ของกลุ่มคนมักง่าย ทั้งๆที่ปัจจุบัน มีการณรงค์ให้คัดแยกขยะ ประโยชน์ของขยะ เช่นน้ำปุ๋ย ขายสร้างรายได้ ดีกว่านำมาทิ้งลงแม่น้ำน่านเช่นนี้"นายคเจน กล่าว
นายจารึก โพธินัย สมาชิก อบต.หมู่ 4 กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบขนขยะทิ้งลงแม่นน้ำน่าน ทาง อบต.ท่าสัก เตรียมขึ้นป้ายขอความร่วมมือประชาชน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง แต่จุดดังกล่าวเป็นทางสัญจรของประชาชน แต่ปริมาณขยะที่ทิ้งเพิ่มมากขึ้น จึงขอร้องอย่านำมาทิ้งอีก เพื่อความสะอาดของแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเรามายาวนาน