หอไอเฟลชูตระหง่านเหนือตึก ถูกบังด้วยหมอกหนาวเห็นลางๆ อยู่เบื้องไกล ขณะที่เครื่องบินลำจัมโบ้ 2 ชั้น ของสายการบินไทย แตะวันเวย์ สนามบินนานาชาติ ชาร์ล เดอ โกล ในยามเช้า ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น 0 องศาเซลเซียส
อีกครั้งที่ได้หวนไปแดนน้ำหอม ตามคำเชิญของหอการค้าไทย-ฝรั่งเศส และ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เพื่อไปดูงานและทำข่าวในแดนน้ำหอม (ระหว่างวันที่ 25 ก.พ.- 1 มี.ค.60 ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ได้มีโอกาสไปดูงานที่เกี่ยวกับวงการเกษตรถึง 2 งานด้วยกันในกรุงปารีส
สายแก่ๆ พระอาทิตย์ท่อแสงเรื่อ ท้องฟ้าปิดด้วยม่านเมฆ ขณะที่ลมหนาวยังกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง กว่าจะเก็บสัมภาระไว้ที่พัก ณ โรมแรมที่พัก"เมอร์คิว โฮเตล"(MERCRE HOTEL) ใกล้สถานรถไฟ Gare du Nord ใจกลางกรุงปารีสก็เกือบเที่ยง
ไม่มีใครพูดถึงอาหารมื้อแรกของกรุงปารีส แต่ทุกคนกุลีกุจอ ออกจากที่พักมุดลงดิน นั่งรถไฟไปอีก 3 ต่อ กว่าจะถึงงานแรก เป็นงานเกษตรแฟร์ ของฝรั่งเศส ชื่องาน SIA (SIA: Salon International de l'Agriculture ) จัดขึ้นที่ Paris Expo Porte de Versailles ทางใต้ของปารีส
งานนี้เน้น ด้านปศุสัตว์ ซึ่ง สุกัญญา เอื้อชูชัย ผู้อำนวยการหอการค้าฝรั่งเศส -ไทย อดีตนักเรียนเก่าแห่งเมืองน้ำหอมแห่งนี้ บอกว่า Sia ถือเป็นงานที่เกี่ยวกับการ ที่เน้นด้านปศุสัตว์ ที่เก่าแก่หนึ่งของฝรั่งเเศส จัดมาทุกปีตั้งแต่ปี ค.ศ.1970
ในพื้นที่ 5 ฮอลล์ เพื่อให้คนเมืองได้เห็นถึงวิถีชีวิตของเกษตรกรและการแปรรูปอาหารจากเนื้อสัตว์ในรูปแบบต่างๆ ภายในงาน จะมีการนำสัตว์ชนิดต่างๆ แต่ละสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อไปโชว์ ไม่ว่าจะเป็นแพะ แกะ สุกร โค เป็นต้น
ในจำนวนนี้จะมีสายพันธุ์แท้ ที่คนไทยรู้จักดี อาทิ โคพันธุ์ ชาร์โรเล่ส์ แพะพันธุ์ชาแนน เบอร์ เป็นต้น จากการสังเกตุภายในงานเกษตรแฟร์ที่กรุงปารีสในครั้งนี้ ที่มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิงไปจากการเกษตรแฟร์บ้านเรา
นั่นคือแม้จะมีการนำสัตว์ไปโชว์ในฮอลล์ จำนวนมาก แต่จะมีการโชว์อุตสาหกรรมปลายน้ำที่ต่อเนื่องจากสัตว์ที่โชว์ คือจะมีการสาธิตในการแปรรูทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ โดยเน้นขายเครื่องจักร์สำหรับแปรรูปเนื้อสัตว์เป็นผลิตภัณฑ์มากกว่าที่ขายพันธุ์สัตว์เหมือนในบ้านเรา
จนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงเราจึงไปเดินช้อป ซื้อสินค้าบางอย่างในโซนที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆคล้ายกับงานโอท็อปในบ้านเราก่อนที่กลับไปที่พักเพื่อเตรียมตัวไปงานใหญ่ ตามที่ได้รับเชิญมา
เช้าวันรุ่งขึ้น เราฝ่าอากาศหนาวเย็นอีกระลอกอีกครั้งไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Gare du Nord จุดหมายปลายทางงานมหกรรม"แสดงสินค้านานาชาติทางด้านธุรกิจการเกษตรแบบครบวงจร" หรือ "ซีมา ปารีส 2017" (SIMA Paris 2017) ครั้งที่ 77 (จัดช่วง 26 ก.พ.-2 มี.ค.60) ณ ศูนย์แสดงสินค้า ปารีส นอร์ท ลิลพัลท์ ตอนเหนือของกรุงปารีส
งาน "ซีมา ปารีส" ถือเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติทางด้านธุรกิจการเกษตรแบบครบวงจร ที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากงาน"อะกรีเทคนิก้า"ที่จัดขึ้นในประเทศเยอรมันนี โดยงานนี้จะจัดขึ้นปี 2 ปีต่อ 1 ครั้ง
ภายในงาน ไม่เพียงเป็นงานแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรครบวงจรที่ยิ่งใหญ่ของโลกเท่านั้น หากแต่เป็นแสดงที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวกรรมการเกษตรที่มองไกลถึงภาคการเกษตรแห่งอนาคตที่ยาวไกลข้างหน้าข้ามทศวรรษ
ศูนย์แสดงสินค้า ปารีส นอร์ท ลิลพัลท์ ศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่เป็นรูปทรงครึ่งวงกลมอยู่ในเนื้อที่ 185 ไร่ ภายในศูนย์แสดงสินค้าแห่งนี้แบ่งพื้นที่จัดงานเป็น 7 ฮอลล์ กินเนื้อที่สำหรับพื้นที่การจัดนิทรรศการราว 3 แสนตารางเมตร โดย บริษัท คมเอ็กซ์โปเซียม จำกัดเป็นแม่งานใหญ่
การสัมผัสงานซีมา ปารีส ทำให้นึกถึงการใฝ่ฝันของรัฐบาลไทย กำลังมีจินตนาการจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศโดยเน้นภาคการเกษตรและอุสาหกรรมภายใต้โมเดล"ไทยแลนด์ 4.0" นั้น
แต่ในสภาพความเป็นจริงของภาคการเกษตรไทย ยังถือว่าล้าหลัง ห่างไกลกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ภาคการเกษตรยังใช้แรงงานคนเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวนายังใช้รถไถ่นาคนเดินตาม และเกี่ยวเกี่ยวข้าวด้วยแรงงานคน ส่งผลให้เสียเวลาและต้นทุนการผลิตสูง
ขณะที่ภาคการเกษตรในประเทศที่พัฒนาโดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป มีการพัฒนาเทคโนโลยีไปไกลแล้ว จึงไม่แปลกเลยว่า ผู้คนในวงการเกษตร ต่างมุ่งหน้าสู่งานนี้ เนื่องจากภายในงานมีการแสดงเทคโนโลยี่สมัยใหม่ ที่กำหนดถึงภาคการเกษตรในทศวรรษหน้าจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่เห็นชัดภาคการเกษตรในภูมิภาคยุโรป มีการวางแผนล่วงถึงอีก 10 ปีว่าจะเป็น อย่างไร เมื่อสภาพความเป็นจริงของโลกใบนี้ คนงานภาคการเกษตรกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้บริษัทต่างๆ ในแวดวงการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร ได้จินตนาการ และลงมืองานวิจัยจริง เพื่อนำไปใช้ในทศวรรษหน้า
อย่างทางค่าย เคส ไอเอช (CASE IH) จากสหรัฐอเมริกา ได้นำรถแทรกเตอร์เอนกประสงค์ ไร้คนขับ ซึ่ง นายวินเซนต์ เฮซันเบิร์ก ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ เคส ไอเอช บอกว่า เป็นเครื่องจักรกลการเกษตรต้นแบบ ที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ใช้ควบคุมด้วยระบบดีจิตอล โดยใช้ระบบจีพีเอสเป็นผู้นำทาง ในลักษณะคล้ายโครนภาคพื้นดิน
ปัจจุบันกำลังศึกษารายละเอียดของความปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติงาน อย่างกรณีเจอหลุ่ม หรือต่อไม้ขนาด คาดว่าคงใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะสมบูรณ์และออกสู่ตลาด แต่ราคาต้องยอมรับว่าค่อนข้างจะสูง
ส่วนค่าย นิว ฮอนแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร จากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน สามารถผลิตรถแทรกเตอร์เอนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้ง 2 ระบบคือทั้งระบบคนขับปกติ และไร้คน ปัจจุบันมีการใช้ในงานประเทศสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ค่าย จอร์น เดียร์ (JOHN DEERE) ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ของ สหรัฐอเมริกาอีกบริษัทหนึ่ง ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นแทรกเตอร์ เซบัส เทียน วาลลาส (Sebastien Vallas)ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนพลังงานน้ำมันปิโตรเลี่ยม
โดยใช้ไฟฟ้าขนาด 130 เมกะวัตต์ การชาร์ดพลังงานไฟฟ้าแต่ละครั้งจะใช้เวลา 5 ชั่วโมง จะเท่ากับการเติมน้ำมันดีเซล 100 ลิตร รถแทรกเตอร์ จะสามารถทำงานได้ 3-4 ชั่วโมง ใช้ได้ทั้งในนาข้าว และพีชไร่ มีความแรงไม่แตกต่างไปจากการใช้น้ำมัน แต่ประหยัดกว่า เปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ แต่ยังเป็นเครื่องต้นแบบ ที่ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
ปกติงาน "ซีมา ปารีส 2017" จะจัดเฉพาะที่กรุงปารีสเท่านั้น แต่เมื่อ 2 ปีก่อน ( ปี 2558) ทาง บริษัท คมเอ็กซ์โปเซียม จำกัด(COMEXPOSIUM) แห่งฟรั่งเศส แม่งานซีมา ปารีส มองว่า ภูมิภาคโลกที่มีศักยภาพด้านภาคการเกษตรสูงโดยเฉพาะในอาเซียน
จึงเลือกประเทศไทย เนื่องจากเขามองว่าไทยมีศักยภาพด้านการเกษตรสูง และเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลกด้วย จึงขยายจัดงาน"ซีม่า" ร่วมกับ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด มาจัดในประเทศไทยชื่องานว่า "ซีมา อาเซียน "
ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งแรกที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค อาริน่า เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ช่วงระหว่างวันที่ 17 19 กันยายน 2558 ภายใต้ชื่องาน "ซีมา อาเซียน ไทยแลนด์"
และปีนี้งานแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติ เพื่อธุรกิจการเกษตรที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ "งานซีมา อาเซียนไทยแลนด์ 2017" (IMA ASEAN Thailand 2017) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 9 กันยายน 2560 ณ อาคาร 5 6 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งจะถือเป็นงานใหญ่ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตรในภูมิภาคนี้