ด้านกองทัพเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการใช้ปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร ยิงกลับไปหลายสิบนัด โดยเล็งไปยังจุดที่มีการปล่อยจรวดออกมาของเกาหลีเหนือพร้อมกับสั่งให้ทหารในแนวพรมแแดนเพิ่มการเฝ้าระวังสูงสุด และชาวบ้านในหลายหมู่บ้านบริเวณชายแดนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงเพื่อความปลอดภัย
เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธหนักยิงเข้าใส่กัน นับตั้งแต่ปี 2553 ที่ทางเกาหลีเหนือใช้ปืนใหญ่โจมตีเกาะของเกาหลีใต้บริเวณชายแดน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นนาวิกโยธิน 2 รายกับพลเรือนอีก 2 ราย โดยในตอนนั้นเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการใช้ปืนใหญ่ยิงไปยังบริเวณที่เป็นฐานยิงของเกาหลีเหนือ
การปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ขณะนั้นคาบสมุทรเกาหลีกำลังตึงเครียดนับจากเกิดเหตุ ทหารเกาหลีเหนือแอบข้ามพรมแดนในเขตปลอดทหาร เข้าไปฝังกับระเบิดในฝั่งเกาหลีใต้ทำให้ทหารเกาหลีใต้ 2 นายขาขาดขณะที่ฝ่ายเกาหลีเหนือปฏิเสธว่าไม่ได้ฝังกับระเบิดจากนั้นเกาหลีใต้ตอบโต้ด้วยการเปิดลำโพงกระจายเสียงต่อต้านเกาหลีเหนือ และเกาหลีเหนือเริ่มกระจายเสียงต่อต้านอีกฝ่ายเช่นกัน ทั้งที่สองฝ่ายหยุดใช้ลำโพงเหล่านี้นานกว่า 10 ปีแล้วซึ่งเป็นกลยุทธเก่าเก็บตั้งแต่สมัยสงครามเย็น
และก่อนหน้านั้นเมื่อเดือน ต.ค.ปี 2557 เกิดเหตุทหารเกาหลีเหนือประชิดชายแดนและไม่ยอมออกไป แม้เกาหลีใต้ยิงเตือน ทำให้ทหารเกาหลีเหนือยิงตอบโต้กลับไปนาน 10 นาที แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต