ที่สน.ประเวศ เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เป็นชาวเมียนมาร์ และคนไทย แล้ว 3-4 ปาก ซึ่งพบผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 คนเป็นชาวเมียนมาร์ อายุประมาณ 20 ปี ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ 1.ทะเลาะวิวาท 2.การล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากนิติเวช รพ.ตร. ซึ่งน่าจะออกภายในวันนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว โดยมีชุดสืบสวนของบก.น.4 ลงมาช่วยสืบสวน ซึ่งในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้คือนายอ่อง วิน ติน หรือ ติน อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมาร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มานั่งดื่มกินสุรากับกลุ่มเพื่อนร่วมชาติชาวเมียนมาร์อีก 3-4 คน ที่ร้านค้าโชห่วย ใกล้จุดพบศพ จากนั้นได้แยกย้ายกันกลับ แต่ทางผู้ตายได้นั่งดื่มกินกันต่อกับนายติน ที่ห้องเช่าใกล้จุดเกิดเหตุ โดยมีพยานแวดล้อมได้ยินเสียงคนทะเลาะวิวาทจากห้องพักดังกล่าว ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีเพื่อนร่วมวงสุราบางรายยังให้การวกไปวนมา ต้องทำการสอบสวนอีกครั้ง
นอกจากนี้ในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น นายติน ผู้ต้องสงสัยซึ่งมาทำงานอยู่โรงคัดแยกขยะที่อยู่ไม่ไกลจุดเกิดเหตุ ได้เพียง 2 อาทิตย์ ได้ไปเบิกค่าจ้างรายวันจากนายจ้างจำนวนเงิน 300 บาท ก่อนจะพบว่านายตินมาร่วมวงสังสรรค์กับผู้ตาย และหลังจากที่มีคนได้ยินเสียงทะเลาะกันในห้องนายติน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร จากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ยังพบว่าเวลาประมาณ 20.45 น. นายติน ได้ไปเล่าให้เพื่อนคนงานชาวเมียนมาร์ฟังว่าได้เป็นผู้ลงมือฆ่าน.ส.ทูน โดยมีการระบุสถานที่เกิดเหตุว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งทำให้เพื่อนชาวเมียนมาร์เกิดความสงสัยจึงเดินมาดู ก่อนจะพบว่าน.ส.ทูน ได้กลายเป็นศพตามที่นายตินเล่า ซึ่งหลังจากที่พบศพ น.ส.ทูน นายตินได้หายตัวไปจากบ้านพัก ทั้งนี้ทางฝ่ายสืบสวนยังพบมีดแกะสลักด้ามสีเหลืองยาวประมาณ 6 นิ้ว อยู่ภายในห้องพักซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งได้ส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐานผลตรวจพบว่าใกล้เคียงกับบาดแผลที่พบบนตัวน.ส.ทูน
ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. ได้เดินทางมาติดตามคดีพร้อมให้แนวทางการสืบสวนกับฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ โดยสั่งกำชับเน้นย้ำเรื่องการส่งข้อมูลสกัดจับคนร้ายไปในกลุ่มเครือข่ายอาสาโฮมการ์ด ศปก.ตร. ด่านตม. เพื่อปิดช่องทางการหลบหนี อีกทั้งให้ตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุย้อนหลังถึงที่มาที่ไปว่าเคยทำงานที่ใดมาก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งหามูลเหตุจูงใจในการลงมือ ว่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ ประสงค์ต่อชีวิต เพศ หรือเกี่ยวพันกับธุระกิจสีเทา หรือการค้ายาเสพติดหรือไม่ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่พักของนายอ่อง วิน ติน อายุ 20 ปี ชาวเมียนมาร์ ผู้ต้องสงสัยฆ่าสาวเมียนมาร์ ตั้งอยู่เลขที่ 40/1 ภายในโรงคัดแยกขยะชื่อย๊ะ โก๊บ รีไซเคิล ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพริมถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง ฝั่งขาออก สะพานข้ามคลองวัดกระทุ่มเสือปลา ระยะทางประมาณ 200 เมตร ระหว่างการตรวจสอบจุดเกิดเหตุมีพยานได้ให้การว่าได้พบเห็นน.ส.มอ ลี ทู และนายอ่อง วิน ติน อยู่ด้วยกันบริเวณใต้สะพานเกิดเหตุ ก่อนที่น.ส.มอ ลี ทู จะเดินออกมาพร้อมกับปัดขาตัวเองทั้ง 2 ข้าง โดยนายอ่อง วิน ตินไม่ได้เดินตามออกมา น.ส.มอ ลี ทู จึงเดินกลับเข้าไปก่อนจะมีการยื้อยุดมือกัน
นอกจากนี้ทางพล.ต.ท.ศานิตย์ ได้สั่งกำชับ ให้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรวบรวมพยานในที่เกิดเหตุบริเวณห้องที่นายอ่อง วิน ตินพักเพิ่มเติม เนื่องจากห้องพักดังกล่าวยังเสื้อผ้าอยู่ครบ และมีข้าวของเครื่องใช้ที่จะสามารถเก็บดีเอ็นเอของนายอ่อง วิน ติน ไปใช้ตรวจเปรียบเทียบกับน.ส.มอ ลี ทู ในประเด็นว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่พบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นมีดแกะสลัก ลักษณะเดียวกันกับที่พบก่อนหน้านี้แต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวพยานมาสอบสวนต่อที่สน.ประเวศ