svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รัฐบาลอินเดียสั่งห้ามส่งออกทอง ตลาดคาดเป็นมาตรการต่อเนื่อง หลังพยายามลดการใช้เงินสดของประชาชน

17 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐบาลอินเดียสั่งห้ามส่งออกทองโดยระบุเหตุผลที่ชัดเจน ส่งกระทบอุตสาหกรรมการค้าอัญมณีในประเทศ เพราะไม่เพียงแต่การห้ามส่งออกทองคำแล้ว แต่ยังรวมถึงสินค้าอัญมณีที่มีส่วนประกอบของทองคำผสมผสานในปริมาณมากกว่า 22 กะรัตอีกด้วย ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นการดำเนินกาารอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้ามาตรการลดการใช้เงินสดของประชาชน

ส่วนการแก้ไขวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่เลขาฯยูเอ็นได้ทำการแจ้งสหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ พร้อมเป็นคนกลางจัดเจรจา 6 ฝ่าย ย้ำถึงเวลาที่จะต้องลดการใช้คำพูดยั่วยุฝ่ายตรงข้าม และเพิ่มการใช้แนวทางทางการทูตเพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

ทางด้านทรัมป์เจอแรงกดดันจากปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติในสังคมอเมริกัน ต้องยุบสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ 2 ชุด สาเหตุจากซีอีโอใหญ่หลายบริษัทตบเท้าลาออก ประท้วงท่าทีของประธานาธิบดีต่อเหตุความรุนแรงที่เมืองชาร์ล็อตต์สวิลล์ในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันศุกร์จนถึงเช้าวันจันทร์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

1.รัฐบาลอินเดียยังเดินหน้ามาตรการลดการใช้เงินสดในประเทศ ล่าสุดสั่งห้ามส่งออกทองโดยระบุเหตุผลที่ชัดเจน ส่งกระทบอุตสาหกรรมการค้าอัญมณีของอินเดีย เพราะไม่เพียงแต่การห้ามส่งออกทองคำแล้ว แต่ยังรวมถึงสินค้าอัญมณีที่มีส่วนประกอบของทองคำผสมผสานในปริมาณมากกว่า 22 กะรัตอีกด้วย แต่หากเป็นการส่งออกอัญมณี หรือเหรียญที่มีทองผสมจำนวณ 22 กะรัตหรือต่ำกว่านั้นก็ต้องระบุเหตุผลที่ถูกต้อง
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวถือเป็นการดำเนินกาารอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้ามาตรการลดการใช้เงินสดของประชาชน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีการยกเลิกการพิมพ์ธนบัตรชนิดราตา 500 รูปี และ 1,000 รูปี ตั้งแต่ปลายปี 2016 ไม่ให้นำออกมาใช้หมุนเวียน โดยต่อมาได้ดำเนินมาตรการสั่งห้ามนำเข้าทองจากต่างประเทศ เพื่อสกัดการไหลอกของกระแสเงินทุนไปนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า รัฐบาลอินเดียสั่งระงับการส่งออกทองไม่ได้ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อการค้าอัญมณีในประเทศแต่ต้องการสกัดการเก็งกำไรจากราคาทองคำ ซึ่งที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อเงินรูปีอ่อนค่าลง

2.นอกากนี้มีรายงานว่า Bridgewater Fund ซึ่งเป็นกองทุนเก็งกำไร หรือ Hedge Fund ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ได้เข้าลงทุนในกองทุนตราสารทองคำ หรือ Gold ETF (Gold Exchange Traded Fund) จำนวนมากถึง 68 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนบุคคลได้เข้าลงทุนปามูลค่า 870 ล้านดอลลาร์ในกองทุนที่ถือทองคำมากที่สุด หรือ SPDR Gold ในช่วงไตรมาสสองปีนี้ด้วยเช่นกัน
ส่งผลให้ราคาทองมีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น จากช่วงปลายปีที่แล้วที่อยู่ต่ำกว่าระดับราคา 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้นมาที่ 1,287 ดอลลาร์ในตลาดการค้าทองสปอต (ปัจจุบันที่มีการส่งมอบทันที) ที่เซี่ยงไฮ้ ส่วนราคาทองที่เป็นการซื้อผ่านตั๋วทองในตลาดล่วงหน้า (Comex) ที่นิวยอร์ก อยู่ที่ระดับราคา 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์

3.ส่วนกระแสความตึงเครียดต่อสถานการณ์นิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีขณะนี้ โดยที่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ทำการแจ้งสหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ พร้อมเป็นคนกลางจัดเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ตอกย้ำว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องลดการใช้คำพูดยั่วยุฝ่ายตรงข้าม และเพิ่มการใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขวิกฤตการณ์เกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยที่คำตอบต่อวิกฤตการณ์ในครั้งนี้จะต้องเป็นแนวทางทางการเมือง เพราะการใช้มาตรการทางทหารจะให้ผลลัพธ์ที่น่ากลัวจนไม่อาจจะคาดการณ์ได้

หลังจากที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่เกาหลีเหนือทำการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปในเดือนกรกฎาคม และขู่ที่จะยิงจรวดนิวเคลียร์ไปยังเกาะกวมกลางเดือนสิงหาคม แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายลงชั่วคราว เมื่อคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่าจะชะลอการตัดสินใจยิงขีปนาวุธไปยังฐานทัพสหรัฐบนเกาะกวม โดยขอรอดูท่าทีของผู้นำสหรัฐก่อน

4.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า เขาได้ประกาศยุบสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ 2 ชุด ซึ่งประกอบด้วยสภาการผลิตอเมริกา กับสภากลยุทธ์และนโยบาย เพราะ "แทนที่ผมจะกดดันพวกนักธุรกิจของสภาการผลิต รวมถึงสภานโยบายและกลยุทธ์ ผมขอเลือกยุบทั้งสองคณะ" หลังจากที่ซีอีโอซึ่งเป็นสมาชิกของสภาการผลิตอเมริกาได้พากันตบเท้าลาออก เพื่อประท้วงท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่เมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ในรัฐเวอร์จิเนียตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์จนถึงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและบาดเจ็บหลายสิบคน

โดยที่การยุบสภาที่ปรึกษาทั้งสองชุดนี้ มีขึ้นหลังจากที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทอินเทล คอร์ป, เมอร์ค แอนด์ โค อิงค์, อันเดอร์ อาร์เมอร์ อิงค์, 3M และแคมป์เบลล์ ซุป ได้พากันประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาการผลิตอเมริกา ประท้วงต่อคำพูดของทรัมป์ที่กล่าวว่า ผู้ชุมนุมจากกลุ่มชาตินิยมผิวขาว และกลุ่มผู้ต่อต้าน ควรต้องร่วมรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ล็อตส์วิลล์ดังกล่าว


5.ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประสบปัญหานโยบายทางสองแพร่งครรั้งใหญ่ หลังจากเตรียมดำเเนินการ Taper เม็ดเงิน QE ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2018 เมื่อ ECB บรรลุเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจกลุุ่มยูโรโซนกลับมาฟื้นตัว
โดยที่มาริโอ ดรากี ประธานของ ECB จะมีการแถลงการแระเมินภาพเศรษฐกิจโลกล่าสุดในระหว่างร่วมประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ Jackson Hole ในช่วงวันที่ 25 สิงหาคมนี้

ที่ผ่านมา นโยบายผ่อนคลายนการเงินอย่างสุดโต่งของ ECB ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจยุโรปมีการฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราค่าจ้างต่างๆ ยังคงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ในทิศทางเดียวกับที่ราคาสินค้าการอุปโภคบริโภคมีการเพิ่มขึ้นอย่างแผ่วๆ ทำให้สถานการณ์ของ ECB ตกอยู่ในช่วงที่เป็นทางสองแพร่งว่าจะสามารถถอนเม็ดเงิน QE หรือการทำ Taper เพื่อแสดงถึงความพยาายามในการลดบัญชีงบดุลของ ECB ตามทิศทางของเฟดที่จะดำเนนนินการลดบัญชีงบดุลที่มีถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนนี้

แต่หลายคนมองว่า ท่าทีของประธาน ECB ในการเข้าร่วมประชุมกับเฟดครั้งนี้อาจจะยังประกาศชัดเจนในเรื่องการ Taper เม็ดเงิน QE ที่อัดฉีดถึงเดือนละ 6.5 หมื่นล้านยูโร ทั้งที่ฐานะงบดุลของ ECB เป็นเจ้าของถือครองบอนด์ภาคเอกชนถึง14% ใน European Corporate Bonds Market และยังใช้เงินอัดฉีดระบบเศรษฐกิจของยุโรปในสัดส่วนสูงถึง 40% ของจีดีพีก็ตาม

logoline