svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบช.น.เร่งสางคดีโจ๋ชิงสร้อยตกสะพานกลับรถ

09 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

‘พล.ต.ท.ศานิตย์’ สั่งเร่งคลี่คลายคดี 2 โจ๋กระชากสร้อยตกสะพานกลับรถเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส หลังพ่อข้องใจลูกถูกจับโยนลงมาหรือไม่ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

           เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม ที่ สน.บางมด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 เดินทางมาพบนายสุริยา สุขเพีย อายุ 45 ปี พ่อของนายบริสุทธิ์ หรือเอฟ สุขเพีย อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาซึ่งเสียชีวิตหลังขับขี่รถจักรยานยนต์พานายวีรพงษ์ เนธิบุตร อายุ 20 ปี เพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลบหนีการไล่ติดตามของพลเมืองดีจนเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขอบสะพานกลับรถถนนพระราม 2 ร่างตกลงมาเอง โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้ให้ นายสุริยา พ่อของผู้ตายรับเอาโทรศัพท์มือถือและสร้อยคอทองคำกับพระเลี่ยมทอง จำนวน 3 องค์ของลูกชายที่พนักงานสอบสวน สน.บางมด เก็บรักษาไว้ให้ขณะนำร่างส่งรักษาอาการที่ รพ.บางมด คืนกลับไป

           จากการสอบถาม นายสุริยา กล่าวว่า ตนยังสงสัยในมูลเหตุการตายของลูกชายอยู่หลายประการ อาทิ เมื่อนายอภิชาติ แซ่อุ้น อายุ 57 ปี พลเมืองดีให้ข่าวว่า ระหว่างไล่ติดตามลูกชายนั้นมีตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาด้วย แล้วขณะนี้ตำรวจท่านดังกล่าวหายไปไหน นอกจากนั้นอาจเป็นไปได้หรือไม่ที่นายบริสุทธิ์ ลูกชาย กับนายวีรพงษ์ เพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ จะถูกควบคุมตัวและจับโยนลงมาจากสะพาน อีกทั้งอยากสอบถามว่าเหตุใดนายอภิชาติ ที่บอกว่าตัวเองเป็นพลเมืองดีจึงต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่าลูกชายแบบกระชั้นชิดขนาดนั้น ทั้งที่สามารถจดจำรูปพรรณกับทะเบียนรถจักรยานยนต์ไปแจ้งเหตุกับตำรวจได้ โดยถ้าหากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง ตนสงสัยว่าลูกชายคงเสียหลักเพราะความตกใจที่นายอภิชาติ กับตำรวจนอกเครื่องแบบนายนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่บี้ติดตาม

ผบช.น.เร่งสางคดีโจ๋ชิงสร้อยตกสะพานกลับรถ

           จากนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ จึงได้เชิญทุกฝ่ายทั้งผู้เสียหาย พลเมืองดี และพ่อผู้ตาย ขึ้นไปที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ สน.บางมด เพื่อรับชมภาพจากกล้องวงจรปิดที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางมด และ สน.ตลาดพลู ช่วยกันนำมาเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี โดยเห็นได้ชัดเจนว่า หลังก่อเหตุ นายอภิชาติ พลเมืองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามรถผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาจริงๆตั้งแต่ต้น แต่ติดตามแบบค่อนข้างห่าง เพราะเกรงว่าตัวเองจะถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน กระทั่งระหว่างทางไปพบกับ ด.ต.เอกปพน ภากรเพิ่มทวี ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางมด ซึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบ ขับรถจักรยานยนต์ของทางราชการออกมาธุระพอดี จากนั้นเมื่อนายอภิชาติ แจ้งกับ ด.ต.เอกปพน ว่า กำลังติดตามผู้ต้องหาคดีพยายามวิ่งราวทรัพย์ ทั้งคู่จึงช่วยกันขับรถติดตามผู้ต้องหา มาจนถึงกล้องตัวสุดท้ายที่สามารถหาได้บริเวณหน้าโรงแรมมดอินน์ ถนนพระราม 2 ขาออกซึ่งอยู่ห่างจากจุดกลับรถที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร

           ขณะที่ ด.ต.เอกปพน ได้ให้การกับผู้บังคับบัญชา ว่า วันที่เกิดเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปซื้อดอกไม้ไหว้พระที่ตลาดจอมทอง พบ นายอภิชาติ แจ้งให้ช่วยติดตามคนร้ายบริเวณแยกดาวคะนองตัดถนนจอมทอง จึงขับรถติดตามไปด้วยกัน แต่ก็เร่งเครื่องไม่ทันรถของผู้ต้องหา กระทั่งถึงช่วงขึ้นสะพานกลับรถ รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาเกิดเสียหลักกระแทกกับขอบปูนกั้นทางและตกลงไปเอง ตอนนั้นจึงหยุดรถและบอกให้นายอภิชาติ ช่วยรักษาสภาพที่เกิดเหตุเอาไว้ เพราะตัวเองไม่ได้เข้าเวร ไม่มีทั้งวิทยุสื่อสารและโทรศัพท์มือถือติดตัวออกมาจากที่พัก จากนั้นจึงขับขี่รถลงจากสะพาน แล้วมุ่งหน้าไปแจ้งเหตุที่ศูนย์วิทยุสุขสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กิโลเมตร

ผบช.น.เร่งสางคดีโจ๋ชิงสร้อยตกสะพานกลับรถ

           ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเบื้องต้นทราบแล้วว่าจุดเกิดเหตุที่ดึงสร้อยกันอยู่ในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนพิสูจน์ให้ชัดเจนเพื่อให้ญาติๆ ของฝ่ายผู้ต้องหารวมถึงทุกภาคส่วนคลายข้อสงสัย โดยตนขอยืนยันหากมีการทำร้ายกันก่อนที่ผู้ต้องหาจะตกลงจากสะพานกลับรถ จะต้องมีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างแน่นอน สำหรับสะพานกลับรถดังกล่าวตรวจสอบแล้วตั้งแต่ปี 2539 เคยมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับรถเฉี่ยวชนขอบทางกั้นจนร่างตกลงมาบนพื้นถนน จำนวน 3 คดี มีผู้เสียชีวิต 2 คดี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คดี โดยหลังจากนี้ตนจะสั่งการให้พนักงานสอบสวนนำทองรูปพรรณของผู้เสียหายไปตรวจดีเอ็นเอ รวมถึงนำรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาที่มีรอยบิดเบี้ยวบริเวณที่พักเท้าข้างซ้าย กับรอยครูดถลอกบริเวณแฮนด์ด้านซ้ายไปวัดกับขอบปูนบนสะพานกลับรถตรงจุดเกิดเหตุด้วยว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

logoline