ธปท.ประเมินค่าเงินบาท ยังผันผวนต่อเนื่อง

ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.วชิรา อารมย์ดี บอกในงานสัมนา"เงินบาทแข็งค่า...ธุรกิจจะต้านทานได้แค่ไหน" ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทของไทยในระยะนี้ ประเมินว่ายังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจค่อนข้างใหญ่ อย่าง สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการส่งออกในการเตรียมความพร้อม และการบริหารจัดการความเสี่ยงให้พร้อมรับกับค่าเงินที่มีความผันผวน โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยที่มุ่งเน้นเฉพาะการขาย ควรมีประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร บอกว่า หากมองย้อนกลับไปในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เมื่อปี 2009 เปรียบเทียบกับค่าเงินบาทขณะนี้ถือว่าค่าเงินบาทยังไม่แข็งค่ามาก ซึ่งผู้ประกอบการสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ในการขยายการลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ในราคาที่ถูกลง และการซื้อเทคโนโลยีด้านต่างๆที่จะนำมาพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มได้
ขณะที่กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พิสิษฐ์ เสรีวิวัฒนา บอกว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญและตระหนักถึงการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ถือว่ามีความสำคัญ จึงอยากให้ผู้ประกอบการส่งออกทำประกันคุ้มครองความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเอ็กซ์ซิมแบงก์มีผลิตภัณฑ์ส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออก ทั้ง สินเชื่อเสริมสภาพคล่องเพื่อการส่งออก อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ร้อยละ 3.5ต่อปี ไม่มีค่าธรรมเนียม รวมถึงการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และประกันความเสี่ยงจากการผิดชำระค่าสินค้า ผู้ประกอบการส่งออกวงเงินส่งออกไม่เกิน 5 แสนบาท คิดเบี้ยประกันอยู่ที่ 1,500 บาท จากเดิม ค่าเบี้ย 3,000 บาท
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2560 ขยายตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน คาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.5 โดยมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคของภาคเอกชน การลงทุนภาครัฐ รวมถึงการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการส่งออกที่ฟื้นตัวได้ดี ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้การส่งออกไทยจะโตได้ร้อยละ 4.1