กษัตริย์ซาอุฯ ทรงแต่งตั้งพระราชโอรส เป็นองค์มกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อัล ซาอุด ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รองมกุฎราชกุมารและพระราชโอรสซึ่งมีพระชนมายุ 31 ชันษาขึ้นดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่ แทนที่เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ พระราชนัดดาหรือหลานชายพระชนมายุ 57 พรรษา
นอกจากนี้ในแถลงการณ์สำนักพระราชวังยังระบุด้วยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานจะทรงรับตำแหน่งใหม่เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ทั้งรัฐมนตรีกลาโหม ประธานสภาเพื่อเศรษฐกิจและการพัฒนา และประธานคณะกรรมการผู้บริหารของอรัมโก รัฐวิสาหกิจน้ำมันแห่งชาติ พระองค์จะยังทรงดำรงตำแหน่งต่อไป ขณะที่เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ อดีตองค์มกุฎราชกุมารทรงถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งทางการเมือง ทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยล่าสุดสถานีโทรทัศน์ของทางการซาอุดีอาระเบียได้เผยแพร่ภาพการพบกันระหว่างเจ้าชาย 2 พระองค์ ซึ่งแสดงให้เห็นเจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ ทรงถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
นับตั้งแต่สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานขึ้นครองราชย์ในปี 2558 มีการคาดการณ์กันว่าพระองค์จะทรงแต่งตั้งให้พระราชโอรสขึ้นมาเป็นมกุฎราชกุมารในอนาคต แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นถือว่าเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้ และยังแหวกธรรมเนียมของราชวงศ์ซาอุฯ ที่ปกติกษัตริย์จะทรงตั้งมกุฎราชกุมารที่ไม่ใช่ทายาทโดยตรงด้วย
เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงมีบทบาทสำคัญในการที่กองทัพซาอุดีอาระเบียเข้าแทรกแซงในสงครามกลางเมืองประเทศเยเมนซึ่งยังคงดำเนินอยู่มาจนถึงปัจจุบัน, การเสนอแนวนโยบาย "วิสัยทัศน์ 2030" เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศและลดการพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน, และเป็นผู้ที่เสด็จเยือนสหรัฐฯ เพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อเดือนมีนาคมก่อนที่ทรัมป์จะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นชาติแรกในอีก 2 เดือนต่อมา