หลังศาลอนุมัติ 5 หมายจับ นายวัฒนา หรือตุ๋ม ภุมเรศ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุวางระเบิดไปป์บอมบ์ รพ.พระมงกุฏเกล้าฯ ล่าสุดฝ่ายความมันคงเร่งขยายเครือข่าย เพราะไม่เชื่อว่านายวัฒนา จะก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยเฉพาะหลักฐานระเบิดที่หน้ากองสลาก มีวัตถุพยานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า มีผู้ก่อเหตุร่วมกันหลายคน
นอกจากการควบคุมตัวนายวัฒนาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวภรรยาของนายวัฒนาไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า พร้อมควบคุมตัวเพื่อนสาวคนสนิทของนายวัฒนาไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ สนามเป้า เพื่อขยายผลในคดีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ในช่วง 20 วันที่เจ้าหน้าที่ติดตามดูพฤติกรรมนายวัฒนา มักจะออกสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมวางระเบิดไปป์บอมบ์ และมีข้อมูลว่าเตรียม ก่อเหตุใน รพ.ศิริราช ฝ่ายความมั่นคงจึงต้องเข้าจับกุม
สำหรับเบื้องหลังในการจับคุมนายวัฒนา มาจากคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ ระบุผู้ต้องสงสัยใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมชุดสีครีมคล้ายชุดตำรวจโบราณ ซึ่งมีบุคคลต้องสงสัยจำนวนมาก จึงคัดออกจนเหลือผู้ต้องสงสัยเป้าหมายไม่ถึง 20 คน จากนั้นเกาะติดรายคนจนเหลือเพียง 2 คน โดยพุ่งเป้าไปที่นายวัฒนาเป็นคนแรก เพราะไม่มีรายชื่ออยู่ในผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษา
เจ้าหน้าที่จึงไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดใน รพ.รวมถึงเส้นทางออกจนเข้าบ้านพักย่านรามอินทรา และจากการตรวจค้น 9 จุด รวมถึงร้านขายแจกันลักษณะเดียวกับที่พบในห้องเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงานของนายวัฒนา ประกอบกับผู้ต้องสงสัยเป็นอดีตวิศวกรไฟฟ้า มีความรู้เรื่องการต่อวงจร เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่านายวัฒนามีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน
จากนั้นเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมรายวัน เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 20 วัน จนพบว่านายวัฒนาแม้จะเกษียณจาก กฟผ.ไปแล้ว แต่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยคือ ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนจะยังคงขับรถส่วนตัวมาจอดที่ กฟผ.นนทบุรี แล้วนั่งรถเมล์ไปยังจุดหมาย
การเดินทางด้วยรถเมล์ของนายวัฒนา เพื่อง่ายต่อการหลบหนี และไม่เป็นเป้าสายตา รวมทั้งการที่นายวัฒนาเป็นช่างไฟฟ้า เมื่อไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆ จึงไม่เป็นที่สงสัย โดยซื้อดินดำที่ร้านค้าย่านสะพานพระราม 7 เพื่อนำมาประกอบระเบิด ส่วนท่อพีวีซีซื้อตามร้านทั่วไป ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงจึงต้องขยายผลหาผู้ร่วมก่อเหตุ ว่ามีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองคอยสนับสนุน