ตะปูเรือใบเกลื่อนถนน คาดฝีมือโรคจิตโปรย วอน ตร.เร่งจับด่วน

เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 6 พ.ค.60 นายธงชัย เอี่ยมหิรัญ เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหลังสวน แขวงทางหลวงชุมพร รับแจ้งจากนายสุทิน กาญจนนิยม อายุ 53 ปี และนางสุดใจ กาญจนนิยม อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.3 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าที่ถนนสายเอเซีย 41 ช่วงหลักกิโลเมตร 68-69 พื้นที่ ม.3 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร รถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียน บต 8154 ชุมพร ที่ตนขับมาบนถนนสายนี้ ได้เหยียบตะปูเรือใบ ที่มีคนนำมาโปรยไว้บนถนน ทำให้ล้อรถหน้าซ้าย ยางรั่ว และหลังจากที่ลงจากรถมาตรวจสอบแล้ว ยังพบว่า บนถนน มีตะปูเรือใบที่ถูกโปรยไว้อีกนับร้อยตัว

หลังรับทราบเรื่อง จึงรีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ และพบกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว กำลังช่วยกันเก็บตะปูเรือใบ ขนาดความยาว 3 นิ้ว จำนวนมาก ถูกโปรยไว้ริมถนน เป็นระยะทางร่วม 20 เมตร นับร้อยตัว แต่ละตัวต้องใช้เครื่องมือในการดัดให้งอ และได้นำมาโปรยไว้ที่บริเวณจุดกลับรถ "แม่เล" ตามที่ชาวบ้านเรียกกัน

ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้มา ทราบว่ามีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดนตะปูเรือใบจำนวนหลายคันแล้ว คาดว่าน่าจะมีคนไม่ประสงค์ดีนำมาโปรยไว้ โดยหวังผลให้รถที่เลี้ยวกลับรถที่จุดกลับรถดังกล่าว รวมถึงรถที่แล่นชิดเลนซ้ายประสบเหตุเท่านั้น

นายสุทิน กล่าวว่า ขณะกลับรถที่จุดดังกล่าว รู้สึกว่ารถเหมือนจะยางรั่ว จึงจอดรถลงไปดู ก็พบว่าโดนตะปูเรือใบแทงที่ล้อหน้าซ้าย จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงมาตรวจสอบดังกล่าว และระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านในละแวกนี้ออกมาดูและสอบถาม พร้อมกับตรวจสอบบนถนน และพบว่ายังมีตะปูเรือใบอยู่อีกจำนวนมาก จึงช่วยกันเก็บ

นายธงชัย เอี่ยมหิรัญ เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหลังสวน กล่าวว่า เหตุลักษณะนี้ เกิดติดต่อมา 3 วันแล้ว มีรถเสียหายแล้วหลายสิบคัน คาดว่าน่าจะเป็นคนโรคจิต นำมาโปรยไว้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของ 3 วันที่ผ่านมา แต่ไม่รู้เจตนาว่าต้องการอะไร ตนเองมีหน้าที่ดูเรื่องความปลอดภัยบนถนน ก็ได้มาเก็บทุกวัน และได้แจ้งให้ทางตำรวจ สภ.หลังสวน ออกมาตรวจสอบด้วย แต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะรถที่แล่นมาด้วยความเร็ว หรือรถบัสโดยสาร ที่อาจเหยียบตะปูเรือใบเหล่านี้ จนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงอยากให้ทางตำรวจออกสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีด่วน หากยังจับกุมตัวไม่ได้ หวั่นกลัวว่าจะไปก่อเหตุอย่างนี้อีก และอาจจะเกิดอุบัติเหตุรุนแรง หรือสูญเสียชีวิตต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้