เจ้าของเก๋งขับส่ายโร่มอบตัว ยอมรับรถคันหน้าขับช้าแค่อยากสั่งสอน
จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Boatter Nithi ได้โพสต์คลิปวิดีโอ 2 คลิป ซึ่งในคลิปเผยให้เห็นว่ารถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวิช สีดำ มีพฤติกรรมขับปาดไปมา อีกทั้งยังหยุดกลางถนน ทำให้ทั้งรถจักรยายนต์ และรถยนต์ที่ขับขี่ตามมา ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ทั้งนี้ เจ้าของคลิปยังเผยอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.วันที่ 6 เม.ย.60 โดยตอนแรกตนคิดว่าคงจะมีเรื่องกับรถเก๋งโตโยต้าวีออส ที่ขับอยู่ด้านข้าง แต่เมื่อขับตามไปเรื่อยๆ ก็พบว่าไม่ใช่ เนื่องจากคนขับเก๋งวิช มีพฤติกรรมขับปาดหน้ารถทุกคัน ตั้งแต่ช่วงแยกประเวศ ไปจนถึงซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 กทม. กระทั่งคนขับคันดังกล่าว ขับเข้าไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ทั้งนี้ ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการเอาผิดกับคนขับเก๋งวิชโดยเร็วเป็นอย่างมากนั้น
สน.อุดมสุข - ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย.2560 พ.ต.อ.ปรีชา เพ็งเภา ผกก.สน.อุดมสุข เปิดเผยว่า ตนได้รับทราบถึงเหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าวแล้ว และได้ให้ฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบทะเบียนรถทราบผู้ครอบครองมีบ้านพักไม่ไกลจาก สน.อุดมสุข มากนัก โดยฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปที่บ้านพักและพบตัวแล้ว พร้อมแนะนำให้มาพบพนักงานสอบสวนทันที สำหรับคนขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าวิชสีดำ ตามคลิปดังกล่าวแล้ว มีพฤติกรรมขับขี่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ตาม พรบ.จราจรทางบก โดยจะมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ขับโตโยต้าวิชดังกล่าว และหากพบก็จะดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาด
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายประสงค์ เรืองศิริกูลชัย อายุ 49 ปี อุปนายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อยู่บ้านเลขที่ 179 ซ.เฉลิมพระเกียรติร.9 67 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 และพ.ต.ต. สมเจตน์ พลเหลา สว.(สอบสวน) สน.อุดมสุข เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น" มาตรา 43(8) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยึดรถของกลางไว้ตรวจสอบที่สน.อุดมสุข พร้อมส่งศาลแขวงพระโขนง พิจารณาตัดสินในเวลา 09.00 น.วันพรุ่งนี้(7 เม.ย.60) จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ จึงตรวจสารเสพติด ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ ไม่พบสารใดๆ
ด้านนายประสงค์ กล่าวสั้นๆ ว่า รถคันหน้าหลายคันขับรถช้าขวางทาง จึงทำให้อารมณ์เสียอยากจะสั่งสอนเท่านั้น จากนั้นเก็บของสำคัญออกจากรถ แล้วเดินทางออกจาก สน.อุดมสุข กลับไปที่พักไป
ด้านพล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า คดีนี้เป็นอุทธาหรณ์ของความใจร้อน จึงอยากให้ทุกคนใจเย็นให้มากกว่านี้ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทจนเกิดเป็นคดีความได้