
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หรือ ท่านประยุทธ์ ปยุตฺโต ได้รับการยกย่องจากทั้งในและต่างประเทศ ด้วยผลงานของท่านทำให้ท่านได้รับรางวัลและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากหลายสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากยูเนสโก (UNESCO Prize for Peace Education)
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ นับเป็นพระภิกษุสงฆ์ไทย ที่ได้รับการยกย่องให้ได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มากที่สุดในปัจจุบัน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ท่านครองตน ครองธรรม เป็นแบบอย่างที่ดี และสมถะ โดยจำพรรษาอยู่ที่ วัดญาณเวศกวัน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
ช่วงปี 2541-2542 ท่านได้เขียนงานชิ้นหนึ่ง ที่สังคมยกย่องว่าเป็น ผลงานที่อธิบายความ อธิบายธรรม เกี่ยวกับ วัดพระธรรมกาย ได้อย่างชัดเจน ชัดแจ้ง ทุกแง่มุม ตรงประเด็น ผลงานที่ว่าชื่อ
"กรณีธรรมกาย : บทเรียนเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา และสร้างสรรค์สังคมไทย" (ISBN : 974-86986-4-5) โดยในคำปรารภ (ส่วนหนึ่ง) ท่านบอกว่า..
"..มุ่งที่ข้อมูลความรู้และหลักการตามหลักฐานที่ยอมรับกันว่าเป็นมาตรฐานกลางของพระพุทธศาสนาเถรวาท พร้อมทั้งคำอธิบายพอเชื่อมโยงระหว่างฐานข้อมูล .. และเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกรณีปัญหาเฉพาะ แม้มิจงใจให้กระทบกระทั่ง แต่เมื่อจะให้เกิดความชัดเจน ก็จำเป็นต้องมีคำและความบางส่วนที่พาดพิงถึงสำนักพระธรรมกาย และท่านผู้เกี่ยวข้อง..โดยขอให้ถือว่ามาช่วยกันทำประโยชน์เพื่อพระศาสนา และสังคมส่วนรวม.. ที่จะให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เป็นสัมมาทัศนะ ที่จะเป็นฐานแห่งความมั่นคงยั่งยืนของพระธรรมวินัย.."
"เนชั่นทีวี" ขอน้อมนำเนื้อหา (บางส่วน) จากงานเขียน "กรณีธรรมกาย : บทเรียนเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา และสร้างสรรค์สังคมไทย" มาเสนอ ดังนี้ ..
กรณี ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ส่วนที่กระทบต่อพระธรรมวินัย "ท่านประยุทธ์ ปยุตฺโต" บอกว่า วัดพระธรรมกาย เผยแพร่คําสอนคลาดเคลื่อนไปจากหลักพระพุทธ ศาสนาหลายประการ เช่น
๑. สอนว่านิพพานเป็นอัตตา
๒. สอนเรื่องธรรมกาย อย่างเป็นนิมิต และให้มีธรรมกาย ที่เป็นตัวตน เป็นอัตตาของพระพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์ ไปรวมกันอยู่ในอายตน- นิพพาน
๓. สอนเรื่องอายตนนิพพาน ที่ปรุ่งถ้อยคำขึ้นมาเองใหม่ ให้เป็นดินแดนที่จะเข้าสมาธิไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ ถึงกับมีพิธีถวายข้าวพระที่จะนำข้าวบูชาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าในอายตนิพพานนั้น
คําสอนเหล่านี้ ทางสํานักพระธรรมกายสอนขึ้นใหม่ ผิดเพี้ยนออกไปจาก ธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า แต่แทนที่จะให้รู้กันตามตรงว่า เป็นหลักคำสอนและปฏิบัติของครูอาจารย์ ทางวัดพระธรรมกายกลับพยายามนำคำสอนใหม่ของตนเข้ามาสับสนปะปนหรือจะแทนที่หลักคำสอนเดิมที่แท้ของพระพุทธศาสนา
ยิ่งกว่านั้น เพื่อให้สําเร็จวัตถุประสงค์ข้างต้นวัดพระธรรมกายยังได้เผยแพร่เอกสาร ที่จ้วงจาบพระธรรมวินัย ชักจูงให้คนเข้าใจผิด สับสน หรือแม้แต่ลบหลู่พระไตรปิฎกบาลี ที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาเถรวาท เช่น
ให้เข้าใจว่าพระไตรปิฎกบาลี บันทึกคำสอนไว้ตกหล่น หรือมีฐานะเป็นเพียงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เชื่อถือหรือใช้เป็นมาตรฐานไม่ได้
-ให้นำเอาพระไตรปิฎกฉบับอื่นๆ เช่น พระไตรปิฎกภาษาจีน และคำสอนอื่นๆ ภายนอก มาร่วมวินิจฉัยพระพุทธศาสนาเถรวาท
-ให้เข้าใจเขวไปว่าหลักการของพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องอภิปรัชญา ขึ้นต่อการตีความ และความคิดเห็น ตลอดจนการถกเถียงทางวิชาการ
-อ้างนักวิชาการต่างประเทศ และการปฏิบัติของตน ดังว่าจะใช้วินิจฉัยหลักพระพุทธศาสนาได้
ฯลฯ
ผลงานเรื่อง "กรณีธรรมกาย : บทเรียนเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา และสร้างสรรค์สังคมไทย" มีหลักพระธรรมคำคม ที่ยึดหลักพระพุทธศาสนาเป็นแก่น สอดแทรก ให้ได้ขบคิด ตรึกตรอง เช่น
"ประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัย ก็ร้าย แต่ทำพระธรรมวินัยให้วิปริต ร้ายยิ่งกว่า"
"ถ้าหลักคำสอนยังมีมาตรฐานรักษา พระพุทธศาสนาก็อยู่ไปได้ถึงลูกหลาน"
"นอกจากหลักฐาน ยังมีหลักการ ที่เป็นมาตรฐานสำหรับวัดคำสอน"
"เพราะยังมีพระไตรปิฎกเถรวาทไว้เป็นมาตรฐาน พระมหายานจึงมีโอกาสย้อนกลับมาหาพุทธพจน์ที่แท้"
"สิ่งควรทำที่แท้ คือ เร่งชวนกันหันมายกเอาพระไตรปิฎกของเราขึ้นศึกษา"
กล่าวได้ว่า ""กรณีธรรมกาย : บทเรียนเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนา และสร้างสรรค์สังคมไทย"ผลงานของ "สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ซึ่งท่านได้รวมประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ไว้อย่างครบถ้วน ลึกซึ้ง แจกแจง ทุกแง่ ทุกมุม ได้อย่างน่าสนใจ
เนื้อหาภายใน มิได้เป็นเพียงแค่การ "แก้ต่าง" การบิดเบือนธรรมคำสอนโดยวัดพระธรรมกายเท่านั้น หากยังเป็นหนังสือที่ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพระไตรปิฎก และหลักของพระพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันให้แก่พุทธศาสนิกชน ผู้ได้อ่านศึกษาทำความเข้าใจ จากการฉกฉวยหลอกลวงจาก "เจ้าลัทธิ" และลัทธิต่างๆ ซึ่งกำลังมีจำนวนมากในขณะนี้!