ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก วันที่ 25 ม.ค.60ที่ผ่านมา น.ส.กานดาได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เดชฤทธิ์ ชอบเรียบร้อย รอง สว.(สอบสวน) สน.ชนะสงคราม เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง หลังเมื่อปี 2557 น.ส.กานดา ได้รับโทรศัพท์จากธนาคารชักชวนให้ทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันชื่อดัง ซึ่ง น.ส.กานดา ได้ปฏิเสธไม่ทำประกัน กระทั่งวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.กานดา ได้รับใบแจ้งหนี้จากบริษัทประกัน ทวงหนี้ประกันชีวิตที่ค้างชำระ ปีที่3 งวดที่3 ซึ่งเลยกำหนดชำระ จึงทราบว่าเกิดการปลอมแปลงลายเซ็นต์เกิดขึ้น จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้าน น.ส.กานดา ระบุว่า ตนได้ปฏิเสธการทำประกันชีวิตกับทางธนาคารไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นความสะเพร่าที่ไม่ตรวจสอบสลิปบัตรเครดิตให้ละเอียด ซึ่งในช่วง 2 ปีแรก คือปี 2557 และปี 2558 ตนถูกหักเงินค่าประกันชีวิตเป็นจำนวน 63,950 บาท รวมเป็นเงิน 127,900 บาท กระทั่งบัตรเครดิตหมดอายุ และพี่สาวของตนไปทำธุระที่ธนาคาร ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงมอบใบแจ้งหนี้มาให้ จึงทำให้ทราบว่าเกิดการปลอมลายเซ็นต์ ตนจึงเดินทางไปสอบถามที่ธนาคาร ซึ่งทางพนักงานธนาคารยอมรับว่าได้ปลอมลายเซ็นต์จริง และจากการตรวจสอบลายเซ็นต์พบว่าไม่ตรงกัน ก่อนที่พนักงานธนาคารคนดังกล่าวจะนำเงินที่คาดว่าเป็นเงินส่วนตัวมาคืนให้ครบตามจำนวนที่จ่ายไป 2 งวดแรก แต่ได้เป็นการทำตามขั้นตอนของระบบธนาคาร ตนจึงได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี "จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเห็นกรมธรรม์ที่ทำประกันชีวิต เนื่องจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ใบแจ้งกรมธรรม์จะถูกส่งไปยังธนาคาร ส่วนผู้ช่วยผู้จัดการคนดังกล่าว ก็รู้จักมาเป็นเวลานานหลายสิบปี แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด" น.ส.กานดา กล่าว พ.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ทันทีที่ทราบเรื่องได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก พนักงานคนดังกล่าวเข้ามาให้ปากคำ โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เรียกสอบพยานแวดล้อม พร้อมทั้งนำพยานหลักฐานที่ น.ส.กานดา นำมามอบให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม หากมีความผิดจริงจะดำเนินการแจ้งข้อหา "ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือส่วนหนึ่งส่วนใด เติม หรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสาร หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร อันน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจริง" มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "คดีนี้ถือว่าเป็นคดีสำคัญ และอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับประชาชนทั่วไปให้ตรวจสอบ การทำธุรกรรม หรือกรมธรรม์กับทางธนาคารให้ละเอียด และควรติดตามตรวจสอบยอดเงินในบัญชีให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันบุคคลฉวยโอกาส และป้องกันการสูญเสียเงินโดยที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง" ผกก.สน.ชนะสงคราม กล่าว