"ครูแพะ" เตรียมขึ้นศาลพิสูจน์ความจริงพรุ่งนี้ (16 ม.ค.60) เชื่อได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.60 นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครู วัย 54 ปี อดีตผู้ต้องโทษจำคุกในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ซึ่งต่อมาพบว่าอดีตครูท่านนี้ตกเป็นแพะ หลังจากที่ผู้ก่อเหตุตัวจริงได้ออกมายอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมได้มาให้แสดงให้กับผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนจะเดินทางขึ้นศาลจังหวัดนครพนมในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้รื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาใหม่ โดยจะมีการสืบพยานใหม่ในเวลา 13.00 น. พรุ่งนี้

นางจอมทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานสำคัญทั้งหมด เพื่อใช้ให้การกับศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะคำรับสารภาพของผู้ก่อเหตุตัวจริง ที่ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ชนรถจักรยานจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2543 รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เชื่อว่าการพิสูจน์ความจริงในครั้งนี้จะได้รับความเป็นธรรม แม้ว่าที่ผ่านมาต้องตกเป็นแพะ ถูกจำคุกในคดีที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ

" จนถึงตอนนี้ก็ยังยืนยันว่า เราไม่ใช่คนก่อเหตุ แต่เมื่อศาลตัดสินไปแล้ว เราก็ถูกจำคุกและออกมาแล้ว คงแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเรา เชื่อว่าจะได้รับความเมตตาและความเป็นธรรม ตอนนี้ไม่โทษว่าใครผิด เพราะเชื่อว่าทุกอย่างผิดพลาดกันได้ เราเป็นครูตอนเราสอนนักเรียนบางครั้งเราก็เคยผิดพลาด ฉะนั้นจึงไม่โกรธใคร วันนี้แค่อยากพิสูจน์ความจริง ซึ่งจากพยานหลักฐานใหม่ที่หามาได้ ก็เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม และผลจากการพิสูจน์ครั้งนี้จะทำให้เรากลับไปทำหน้าที่ครูที่เรารักได้"

สำหรับการรื้อฟื้นคดีในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากนางจอมทรัพย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้รื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ หลังจากที่นายสับ วาปี ทราบว่านางจอมทรัพย์ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกและต้องออกจากราชการทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด จึงรู้สึกผิดที่อดีตครูต้องมารับโทษแทนตนเองเข้าให้การกับตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ทำให้นางจอมทรัพย์มีหลักฐานใหม่ที่สำคัญต่อคดี ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาว่าหากนำมาสืบในคดีจะแสดงว่าอดีตครูที่ถูกศาลตัดสินจำคุกไม่ได้กระทำผิด และคำร้องมีมูลพอที่จะรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ จึงมีคำสั่งให้รับคำร้อง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาคดีที่รื้อฟื้นขึ้นพิจารณาใหม่