"จีน" โต้ "ทรัมป์" "เงินหยวน" อ่อนค่าเพราะ "ดอลลาร์อันตราย"

BIS (Bank for International Settlements) ออกมาเตือน "ดอลลาร์อันตราย" หลังจาก Dollar Index แข็งค่าขึ้นในรอบ 14 ปีได้กลายเป็นดัชนีของความผันผวนรุนแรงในตลาดค้าเงินตราทั่วโลกไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่จีนส่งเสียงตอบโต้ทรัมป์ การที่เงินหยวนอ่อนค่าลงระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีแตะที่ระดับ 6.95 ต่อดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น ไม่ได้เกิดความปัญหาของเงินหยวน ตรงกันข้ามกลับเป็นปัญหาที่มาจากเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างรวดเน็วโดยเฉพาะในช้วงหลังจากการเลือกตั้งปธน.สหรัฐที่เพิ่งผ่านพ้นไปในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงกล่าวหาทางการจีนเป็นผู้ปั่นเงินหยวนให้อ่อนค่าลง
1.ล่าสุด ธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ หรือ BIS ได้ออกมาเตือนภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นนั้น จนทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรง ไม่ต่างจากการเป็น "New Fear Index" โดยที่ Dollar Index ในตลาด Spot แข็งค่าต่อเนื่องทะลุระดับ 102.05 ระหว่างชั่วใมงซื้อขายวานนี้ก่อนที่จะปิดทรงตัวที่ 101.70 โดยแนวโน้ม
2.การแข็งค่าไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสกุลหลักของโลกทั้งเงินเยน ยูโร ปอนด์ และหยวนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว นอกจากเงินหยวนที่อ่อนค่าใกล้แตะระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์เข้าไปทุกที ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงนับตั้งแต่ปี 2008-2009 เงินเยนยังดิ่งลงทะลุ 113.72 ต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ แต่การแข็งค่าของดอลลาร์ยังกระทบต่อสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 7 ปีเช่นกัน เช้าวันนี้เงินบาทเคื่อนไหวอยู่ที่ 35.67 ต่อดอลลาร์หลังจากวานนี้อ่อนค่าลงแตะที่ 35.72 บาท
โดยสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดยังคงต้องเผชิญกับการเทขายอีก และเกิดการไหลออกของเงินทุน ในช่วงเพียง 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมา มาเลเซียริงกิตอ่อนค่าลงถึง 5.6% อินโดนีเซียรูเปียะห์อ่อนค่าลง 3.2% และเงินรูปีอินเดียอ่อนค่าลงกว่า 2.5%
3.การพุ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ที่ยังมีแรงซื้อต่อเนื่อง ยังส่งผลต่อราคาทองดิ่งลงอีกที่ 1,176 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงอีกกว่า 1.1% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการซื้อขายในวันพฤหัสฯเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
4.ทองคำเป็นอีกสินทรัพย์ทางการเงินที่ถูกผลกระทบรุนแรงในช่วงเกือบ 1 เดือนมานี้ หลังจากที่รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรฉบับละ 500 และ 1,000 รูปี ส่งผลให้มีความต้องการถือทองคำมากขึ้น ประกอบกับข่าวลือที่ว่ามีการนำเข้าทองคำของอินเดียราว 700 ตันตี่งแต่ต้นเดือนพ.ย. ทำให้ตลาดเกิดอาการช็อค รวมถึงการเลือกตั้งที่ทำให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งปธน.สหรัฐ ราคาทองคำโลกเด้งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดที่ 1,335 ดอลลาร์ แต่หลังจากนั้น 1 กลับมีคำสั่งขายถึง 85,000 สัญญาในตลาดค้าทองล่วงหน้าที่นิวยอร์ก (Comex) ทำให้ราคาทองตกต่ำลงต่อเนื่องภึง 159 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยตลาดคาดว่าอาจจะได้เห็ยทองคำตกลงไปถึง 200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในรอบนี้
5.อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในตลาดการเงินโลกมีการตั้งข้อสงสัยในปัจจัยพื้นฐานที่หนุนดอลลาร์แข็งค่า โดยที่ Dollar Index ทะลุถึง 102 เทียบกับช่วงก่อนเลิกตั้งอยู่ที่ระดับ 96 เงินดอลลาร์จะสามารถแข็งค่าต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพถึงระดับไหน เมื่อสหรัฐมีภาระหนี้ต่างประเทศคงค้างสูงถึง 19.9 ล้านล้านดอลลลาร์ นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมายังมีการขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐจากธนาคารกลางต่างประเทศจำนวนมากถึง 3.75 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งสองปัจจัยล้วนส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ควรจะอ่อนตัวลงในอนาคต
โดยขณะนี้มีเพียง2 ปัจจัยที่ยังสนับสนุนเงินดอลลาร์แข็งค่านอกกจากการคาดการณ์กสนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังและการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้เท่านั้น