svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยาน! ขานรับ Helicopter Money ของทรัมป์

23 พฤศจิกายน 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

Top 5 ข่าวการเงินโลก ประจำวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2559 โดย วัชรา จรูญสันติกุล บรรณาธิการอาวุโส เครือเนชั่น

ทรัมป์จะมาพร้อม "Helicopter Money" หลังจากที่ได้สัญญาไว้ว่าจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้กลับมาเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 2.5% ผ่านการใช้งบประมาณขาดดุลจำนวน 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ และลดภาษีจำนวน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะ 10 ปีข้างหน้า
โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่านโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะปานกลางช่วง 3 ปีนับจากนี้ไป แต่หลังจากนั้นปัญหาหนี้สินต่างๆจะกลับมาเป็นข้อจำกัดและอุปสรรคที่กดดันตัวเอง เนื่องจากพันธะหนี้สาธารณะของรัฐบาลในช่วง 10 ปีจะพุ่งทะลุเกินกว่า 105% ของจีดีพี เปรียบเทียบกับนโยบายของฮิลลารื คลินตัน ภาระหนี้สาธารณะจะถูก cap ไว้ที่ 85% ของจีดีพี
1.นักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์แบงก์มองว่าในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้ เกิดความขัดแย้งที่น่าเป็นห่วง เพราะการอัดฉีดนโยบายการคลังของทรัมป์นั้นได้ทำให้อัตราผลตอบแทน หรือบอนด์ยีลด์ พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเปฌนความเสี่ยงที่ส่งผลร้ายต่อภาระหนี้ทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น
โดยเฉพาะผลกระทบที่มีต่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่อัดฉีดเงิน QE เข้าซื้อบอนด์จำนวนมหาศาล เนื่องจาก ECB มีแผนจะใช้เงินซื้อบอนด์ของแบงก์พาณิชย์จนถึงไตรมาสแรกปี 2017 รวมวงเงิน 1 ล้านล้านยูโร หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ BOJ ในปัจจุบันใช้เงินมากกว่า 28 ล้านล้านเยนซื้อบอนด์ของรัฐบาลญี่ปุ่น
ทั้ง ECB เละ BOJ คาดหวังว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเงินเฟ้ออยู่ที่ 2%

2.ประเด็นที่น่าจับตามองก็คือ บอนด์ยีลด์ที่พุ่งขึ้นมาและส่งผลต่อต้นทุนหนี้ของทั้ง ECB และ BOJ พุ่งสูงขึ้นต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการปกป้องความผันผวนของบอนด์ยีลด์ที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เพื่อ cap บอนด์ยีลด์เอาไว้

3.หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ธนาคารกลางหลักๆเหล่านี้อาจจะต้องอัดฉีดเม็ดเงิน QE เพิ่มขึ้นอีก หรืออาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินระลอกใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะนโยบายการเงินปัจจุบันทั้ง ECB และ BOJ ยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ หรือ negative interest rate เพื่อกดบอนด์ยีลด์ติดลบ (negative yields) ด้วย โดยก่อนหน้านี้การซื้อขายบอนด์ทั่วโลกที่เป็น negative yields มีปริมาณมากกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์ ในปัจจุบันบอนด์ยีลด์ทั่วโลกกำลังสวิงตัวกลับเพราะความกลัวในเรื่องเงินเฟ้อสูงขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ จะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยโลกกลับมาสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

4.นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังคาดว่า นโยบายของทรัมป์ซี่งต้องการทำโครงการสาธารณูปโภคสาธารณูปการพื้นฐาน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือปีละ 1.1 แสนล้านดอลลาร์จะกระตุ้นเศรษฐกิจสูงขึ้น 0.5-0.7% ต่อปี

5.ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวสูงขึ้น ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ทะลุระดับ 19,000 ปิดวันอังคารที่ 19,023 บวก 67 จุด หรือ 0.35% เช่นเดียวกับ S&P 500 ยืนเหนือ 2,202 ส่วน Nasdaq ปรับตัวเข้าใกล้ 5,400 ปิดที่ 5,386

logoline