"ยิ่งลักษณ์" งดแถลง ระหว่างคนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้(21ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลเพื่อร่วมฟังการใต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 5 คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งวันนี้ ฝ่ายจำเลย เตรียมพยานไว้ไต่สวน 2 ปาก
โดยก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนไทยโศกเศร้า จึงจะไม่แถลงการณ์ใดๆ จนกว่าจะถึงระยะเวลาอันสมควรแต่ก็ขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด
ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลัออกคำสั่งทางปกครองเรียกเก็บค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจาก เป็นเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่าไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อตัวเธอ เพราะก็ทราบกันว่าเป็นเรื่องของนโยบาย และก็ไม่เคยมีใครถูกกระทำอย่างนี้มาก่อนในเวลาอันเร่งรีบเช่นนี้
"ดิฉันขอยืนยันว่า จะใช้สิทธิ์ทุกช่องทางของกฎหมายที่มี ในการที่จะกอบกู้ความเป็นธรรมครั้งนี้ โดยดิฉันขอปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ และกระบวนการที่ใช้คำสั่งเพราะถือว่าไม่ถูกต้องเป็นธรรม ซึ่งดิฉันจะเปิดแถลงการณ์ในเวลาอันควร เพราะเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า จึงไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้ "

เมื่อถามว่าในการออกคำสั่งดังกล่าวมีกรอบเวลาตามกฏหมายที่จะคัดค้านได้ว่าต้องยื่นภายในกี่วัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าก็ต้องทำตามข้อกฏหมายซึ่งตัวเองจะทำตามข้อกฏหมายทุกช่องทางเมื่อถามว่ามองอย่างไร ที่มีการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 44 มาดำเนินการเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยืนยันกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้ร้องขอความเป็นธรรมอยู่แล้ว แต่วันนี้ยังไม่ขอพูดในรายละเอียด
"ก็เรียนว่า ใครเป็นอย่างดิฉัน ก็คงรู้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน" อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์กล่าวและว่า ประเด็นที่ยังเป็นห่วง คืออะไรที่เป็นเรื่องของนโยบายแล้วมาถูกทำแบบนี้ อนาคตก็อาจทำให้รัฐบาลดูแลนโยบายที่จะทำเพื่อประชาชนและชาวนายากขึ้น เพราะมาตรการต่างๆไม่สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการไต่สวนคดีจำนำข้าววันนี้ ก็ยังคงมีมวลชนมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมือนเช่นเคยโดยทั้งหมดต่างสวมชุดเสื้อผ้าดำ-ขาว แต่ไม่มีการส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ รวมทั้งไม่มีการมอบดอกกุหลาบสีเเดงเหมือนเช่นเคย โดยมวลชนได้แต่เพียงยกมือไหว้ให้กำลังใจเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้อยู่ ในช่วงของการแสดงความอาลัยและไว้ทุกข์ ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช