svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ปูด!! "รีดส่วย" ร้านนวดแผนไทย

เป็นไปตามที่การกังวลกันก่อนหน้านี้ว่าในช่วงรอยต่อของการประกาศใช้กฎหมายควบคุมร้านนวด-สปา จะมีการเข้าไป "รีดส่วย" จากผู้ประกอบการโดยเฉพาะร้านนวดแผนไทย "พงศพัศ" กำชับทันทีใครทำจัดการเด็ดขาด เตรียมประชุมด่วนร่วมกับสธ.

7 ก.ย. 59 - ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกได้รับร้องเรียนจากร้านนวดแผนไทยในจังหวัดท่องเที่ยวขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ว่า หลังจากมีการประกาศพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 ลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 กันยายน นี้ ปรากฏว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาขอตรวจใบอนุญาตที่ร้านนวดแผนไทยหลายร้าน ซึ่งร้านนวดส่วนใหญ่จะมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ที่ออกให้โดยส่วนงานท้องถิ่น และกำลังอยู่ในขั้นตอนการไปยื่นเรื่องต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) เพื่อขอใบรับรองตามกฎหมายใหม่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจบอกว่าใบอนุญาตที่ทางท้องถิ่นออกให้ใช้ไม่ได้
พวกเราพยายามบอกว่ากำลังไปยื่นเอกสารที่ สสจ. บางร้านกำลังรวบรวมเอกสาร บางร้านก็ไปยื่นแล้ว และทาง สสจ.นัดวันที่จะเข้ามาตรวจร้านว่าได้มาตรฐานตามเงื่อนไขในกฎหมายใหม่หรือไม่ แต่ตำรวจก็ไม่ยอม และมีการขอ "ค่าดูแล" เดือนละ 1,000 - 2,000 บาท หากยอมจ่ายให้ก็สามารถเปิดร้านได้ตามปกติ แต่ถ้าร้านไหนไม่ยอมจ่ายก็ต้องจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็ต้องปิดร้านไปก่อน โดยตำรวจเริ่มเข้ามาที่ร้านนวดต่างๆตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม"
"ทาง สสจ.ก็ยืนยันกับพวกเราว่า เมื่อมายื่นเรื่องขอใบอนุญาตตามกฎหมายใหม่แล้ว เราก็สามารถเปิดร้านได้ตามปกติ แต่ตำรวจกลับไม่ยอม" เจ้าของร้านนวดกล่าวพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จะมอบหมายให้ พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฝ่ายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ไปตรวจสอบในเรื่องนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปข่มขู่ เรียกผลประโยชน์จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
"สิ่งที่ตำรวจทำได้คือเข้าไปแนะนำให้สถานประกอบการดำเนินการให้เป็นตามกฎหมายใหม่ ไม่ใช่ไปหาช่องโหว่ในการแสวงหาผลประโยชน์ ผมจะเรียกประชุมเพื่อทำความเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำอย่างไร และจะประสานประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายนี้เพื่อพูดคุยให้เกิดความรัดกุม และควรจะมีการออกคู่มือมาให้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการ เจ้าของร้านนวดจะต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง"
"หากทางร้านกำลังอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตตามกฎหมายใหม่ ก็ถือว่าเขาทำถูกต้องตามกฎหมายใหม่แล้ว" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
"ผมเป็น สนช.(สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) ผมร่วมออกกฎหมายฉบับนี้มาด้วย กฎหมายนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองอาชีพนี้ให้คนไทย ให้เป็นสถานประกอบการที่ปลอดภัย ผู้ให้บริการนวดก็ไม่ถูกอารัดเอาเปรียบ ซึ่งทางตำรวจและทางกระทรวงสาธารณสุขต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการนี้ ไม่ใช่ใช้ช่องว่างไปแสวงหาประโยชน์" รอง ผบ.ตร. ย้ำเมื่อ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการและผู้ให้บริการนวดแผนไทย จำนวน 5,490 คน นำโดยนายสุกษม อามระดิษ เลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ได้เข้าชื่อยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่ากฎหมายใหม่นี้จะเปิดช่องให้มีการรีดส่วยจากผู้ประกอบการได้
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตอนนี้ทางสำนักเลขาธิการได้ส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว คาดว่าผู้ตรวจฯน่าจะรับไว้พิจารณา และคงตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้รอบด้าน ก่อนส่งให้คณะผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาลงความเห็น แต่คงไม่ทันวันที่กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้คือ 27 กันยายน นี้
ทั้งนี้ภายหลังกลุ่มผู้ประกอบการนวดแผนไทยไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ทำเอกสารชี้แจงข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 ซึ่งมีทั้งหมด 5 ประเด็น คือ
1.ประเด็นการเก็บค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ระบุว่า เมื่อผู้ประกอบการที่เปิดให้บริการกิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงามได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ผู้ประกอบการไม่ต้องไปขออนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 จากกระทรวงมหาดไทยอีก เนื่องจากเป็นคนละประเภทกัน
ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2558 เพื่อยกเลิกกิจการบางประเภทที่พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 2559 กำหนดไว้แล้ว เช่น กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม เพื่อไม่ให้กฎหมายมีความซ้ำซ้อน ดังนั้นเมื่อยกเลิกแล้ว ทางท้องถิ่นก็ต้องไปแก้ไขข้อบัญญััติให้สอดคล้องกัน ก็จะทำให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพไม่ต้องไปขออนุญาตกับท้องถิ่นอีกต่อไป
2.การกำหนดให้มีผู้ดำเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
3.การกำหนดหลักเกณฑ์การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ให้บริการได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือ องค์กรต่างๆ โดยได้กำหนดบทเฉพาะกาลให้วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลางก่อนวันที่หลักเกณฑ์มีผลใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ สบส.ให้การรับรองตามกฎหมายใหม่ ส่งผลให้ผู้ให้บริการที่เคยผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่คณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลางให้การรับรองที่มีกว่า 600 หลักสูตรสามารถยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้
4.ประเด็นการนวดไทยที่เป็นการบำบัดรักษา 
และ 5.เจตนารมณ์ของกฎหมาย