โดยจับกุมตัวได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะที่ผู้เสียหาย ถือหนังสือเดินทางประเทศจีนเลขที่ E43523881 มาทำการแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อยืนยันตนและขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยบินกลับไปประเทศจีน
แต่เจ้าหน้าที่ตรวจ พบว่า หนังสือเดินทางดังกล่าวนั้นมีตราประทับสงวนสิทธิ์ในราชอาณาจักรและตราขออยู่ต่อในราชอาณาจักรปลอม ซึ่งมีการตรวจสอบจากนายด่านคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้ ไม่ได้ยื่นคำร้องขออยู่ต่อกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร
โดยรอยตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาราจักร ที่พบนั้น ปรากฎว่า จากการตรวจสอบไปตรงกับตราประทับในหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวศรีลังกาท่านหนึ่ง ที่มีการขออนุญาตอยู่ต่ออย่างถูกต้องกับเจ้าหน้าที่ จึงมั่นใจว่าตราประทับที่ผู้ต้องหารายนี้ ใช้นั้นเป็นตราประทับปลอมแปลงขึ้นมา
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ผู้ต้องหารายนี้ถึงกับหน้าซีดและให้การภาคเสธในข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าตราประทับที่ตนเองใช้นั้น มีนายหน้าชาวไทยมาติดต่อและแจ้งว่าให้จ่ายเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อจะแลกกับตราประทับอนุญาตให้อยู่ทำงานต่อในประเทศไทย พร้อมกับมีรายเซ็นต์กำกับซึ่งตนเองก็หลงเชื่อ จนกระทั่งกำลังจะเดินทางกลับประเทศ ก็มาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้