สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ19.30น.วันที่14ก.ค. ขณะที่ น.ส.ปราณี พลอยรัมน์ พนักงานเปิดแผ่น(ดีเจ)ร้านนางฟ้าคาราโอเกะ ขณะที่กำลังนั่งเล่นภายในร้าน ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน พร้อมกับสั่งเครื่องชูกำลัง1ชวด พร้อมกับเดินเข้าไป น.ส.ชนิดา โชคเจริญ พนักงานเสิร์ฟ ว่ามานั่งรอเพื่อร พร้อมกับชวนคุยว่าหากรับว่าค้าประเวณีจะให้เงินจำรวน2พันบาท แต่น.ส.ชนิดา ปฏิเสธ พร้อมทั้งบอกว่าร้านนี้ไม่มีการค้าประเวณีแต่อย่างใด ชายคนดังกล่าวจึงเดินเข้าไปหา น.ส.ปราณี พลอยรัมน์ พร้อมทั้งยื่นเงินใส่มือ จำนวน2พันบาท แต่กลับถูกน.ส.ปราณี โดยไม่บอกว่าเป็นค่าอะไร ซึ่ง น.ส.ปราณี เกิดความเอะใจต้องมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น จึงเดินไปหา น.ส.ชนิดา พร้อมได้พูดคุยกันว่าน่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นแน่ และทันใดนั้นเอง ได้มีชายฉกรรจ์อีก4คน บุกจู่โจมเข้ามา ทราบต่อมาชื่อ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1บก.สส.ภาค2และ ร.ต.ท.จุตภูมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล พร้อมพรรคพวกอีก4คน เดินเข้ามาประชิดตัว ซึ่ง ร.ต.ท.จตุภูมิ ลิ้มศิริวัฒนกุล ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเงินที่น.ส.ปราณี กำไว้ในมือ พร้อมกับขู่บังคับให้อยู่ในอาการสงบ และบังคับให้โทรศัพท์หา น.ส.ปะระนิสา ไชยนาพาณิชย์กุล ให้เดินทางกลับมาที่ร้าน ซึ่ง พ.ต.ท.นราวุธ แจ้งข้อหาว่าคุณถูกจับในข้อหาค้ามนุษย์และค้าประเวณี ซึ่ง น.ส.ปะระนิสา จึงสอบถามถึงหลักฐานว่าเงินล่อซื้ออยู่ที่ไหนกับใคร กลุ่มตำรวจก็ได้ชี้ไปที่ตัว น.ส.ปราณี ทันที
ต่อมา น.ส.ปะระนิสา จึงโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ว่าขณะนี้มีตำรวจใต้บังคับชาซึ่งไม่ทราบว่าอยู่หน่วยไหนกลั่นแกล้งจับกุม ทาง ผบ.ตร.จึงขอสายให้คุยกับตำรวจชุดจับกุม แต่ พ.ต.ท.นราวุธ ไม่ยอมคุยด้วย แต่พูดว่า ถ้าเป็น ผบ.ตร.จริง ให้โทรศัพท์ไปหา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และยังหาว่า น.ส.ปะระนิสา เป็นบ้าพูดโทรศัพท์อยู่คนเดียว พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงบอกให้เปิดโฟนเพื่อให้ได้ยินเสียง แต่สุดท้ายแล้วสารวัตรสังกัด บก.สส.ภ.2คนก็ยังไม่เชื่อว่าเป็น ผบ.ตร. ทั้งๆ ที่ได้ยินเสียงจากปลายสายแล้ว พร้อมกับสั่งให้ลูกน้องใส่กุญแจมือผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อเดินทางไปที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แต่ น.ส.ปะระนิสา ไม่ยอม ทาง พ.ต.ท.นราวุธ จึงเงื้อมือทำท่าจะตบ น.ส.ปะระนิสา จึงรีบบอกว่าที่ร้านมีกล้องวงจรปิด พ.ต.ท.นราวุธ เลยไม่ทำอะไร ก่อนที่จะควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถปิกอัพ4ประตู ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ในระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถ มีตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า เรื่องนี้สามารถเคลียร์กันได้ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย ข้อหาค้าประเวณีใช้เงินแค่2-3หมื่นบาทก็จบแล้ว ระหว่างนั้นมีสายโทรเข้ามาที่มือถือของ น.ส.ปะระนิสา พร้อมกับแนะนำตัวว่าคือ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาดูแลเรื่องนี้ และขอให้เปิดโฟนพูดคุยกับหัวหน้าชุดจับกุม แต่ทางสารวัตรรายนี้กลับบอกว่าไม่ใช่เสียงของนายกู ทาง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จึงวางสายไป ส่วนตำรวจที่ชื่อดาบหมูได้ตะโกนขึ้นมาว่า เดี๋ยวบอกว่าเป็นผู้การ เดี๋ยวบอกว่าเป็น ผบ.ตร.โทรมา ถ้าเป็น ผบ.ตร.จะเอาชื่อลงบันทึกประจำวันด้วย ว่า ผบ.ตร.ช่วยเหลือผู้กระทำผิด และจะเอา ผบ.ตร.ออกจากราชการด้วย
ในระหว่างนั้นมีสายโทรเข้าที่เครื่องมือถือของ พ.ต.ท.นราวุธ เจ้าตัวจึงรับสาย เลยทราบความจริงว่า คนที่โทรเข้าเครื่องของ น.ส.ปะระนิสา นั้น เป็นผู้การชลบุรีตัวจริง จากนั้นจึงรีบสั่งให้ลูกน้องปล่อยตัวผู้ต้องหา พร้อมกับไปขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาต่อมา น.ส.ปะระนิสา เห็นว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา กระทั่งเมื่อวันที่15ก.ค. พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2ได้มีคำสั่งที่170/2559สั่งย้าย พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.กก.1บก.สส.ภ.2กับลูกน้องในชุดจับกุม ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร.ภ.2โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม