คู่กรณี “ภูริ”ควงเจ้าของเดิมเกาะนาคาน้อย แถลงที่มาที่ดิน ท้า!แน่จริงมอบที่ดินเป็นสมบัติของสาธารณะ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2559 ที่ทำการชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ภายในศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายเจษฎา ท่อทิพย์ หุ้นส่วนบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด เจ้าของ น.ส.3 ก เนื้อที่ 24 ไร่ ซึ่งออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 70 พร้อมด้วย นางเจ๊ะหย้า ตนคลัง อายุ 72 ปี เจ้าของที่ดินรายแรกของเกาะนาคาน้อย ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และนายดลม่าหนับ ตนคลัง

แถลงข่าวเกี่ยวกับความเป็นมาของที่ดิน บนเกาะนาคาน้อย หลังจากเกิดกรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับการเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะนาคาน้อย จนทำให้ผู้บริหารบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด แจ้งความดำเนินคดีดาราดัง นายภูริ หิรัญพฤกษ์ และนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

นางเจ๊ะหย้า กล่าวว่า ที่ดินบนเกาะนาคาน้อยทั้งเกาะมีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ เดิมเป็นของปู่ (ขุนหมื่น หวังดี) และตกทอดมายังพ่อ (นายมะแอ หวังดี) และได้มีการแบ่งขายให้กับหลวงขจรฯ ไปส่วนหนึ่งประมาณ 50 ไร่ ในราคาประมาณ 25,000 บาท โดยเป็นการขายเปล่าไม่มีเอกสารใดๆ

ส่วนที่เหลือแบ่งให้น้องเขยของพ่อกับตน ต่อมาภายหลังลูกสาวของหลวงขจร โลหะเวช ก็ได้ขายกับ นายอาทร พันธุ์ทิพย์ ก่อนที่จะมีการขายต่อให้กับปู่ของนายภูริ หิรัญพฤกษ์ เมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหากไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ก็ไม่สามารถออกได้ทั้งหมด

ขณะที่นายเจษฎา กล่าวว่า ในสมัยก่อนที่ดินบนเกาะนาคาน้อยนั้นไม่ได้มีหลักฐานอะไร จนกกระทั่งมีการนำมาออกเป็น สค.1 ซึ่งจำไม่ได้ว่า มีการออกมาเมื่อใด แต่จะเป็นในรุ่นของพ่อ ส่วนกรณีที่ทางอดีตที่ดิน อ.ถลาง ไปแจ้งความว่า ตนได้มีการนำหลักฐาน สค.1 ปลอมมาออก นส.3ก. ซึ่งตนก็งงอยู่เหมือนกันว่า เป็นเอกสารปลอมได้อย่างไร เพราะบนเกาะนาคานั้น ไม่มีแนวเขตอะไรเลย โดยเป็นพื้นที่ ซึ่งสามารถจะออกเอกสารสิทธิได้ โดยที่ดินของทางตระกูลหิรัญพฤกษ์นั้น มีการออก นส.3 ได้ จำนวน 53 ไร่ แต่เมื่อทางบริษัท ภูเขาหกลูกฯ มาออกเอกสารสิทธิบ้างกลับมีปัญหา

ดังนั้น หากที่ดินของบริษัทภูเก็ตหกลูกฯไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ในส่วนของตระกูลหิรัญพฤกษ์ ก็ย่อมที่จะไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้เช่นกัน และหากจะมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิของบริษัทภูเขาหกลูก ก็จะต้องเพิกถอนในส่วนของตระกูลหิรัญพฤกษ์ด้วย เพราะการออกเอกสารสิทธิของตระกูลหิรัญพฤกษ์ก็ไม่มีที่ไปที่มาเหมือนกัน

การออกมาแถลงข่าวนั้น ไม่ต้องการอะไร แต่ต้องการความถูกต้อง และเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ข้อเท็จจริงและที่มาที่ไปของที่ดินบนเกาะนาคาน้อย ว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด ขณะที่อีกฝ่ายก็ผิดหมด ขอยืนยันว่า เอกสารสิทธิ สค.1 ที่นำมาแสดงนั้นได้มาอย่างถูกต้อง และไม่ได้เป็น สค.1 บินแต่อย่างใด แต่จำไม่ได้ว่าออกมาเมื่อใด โดยตนได้มาจากพ่อ คือ นายหรนท่อทิพย์ และเป็นไปได้อย่างไรที่อดีตที่ดินถลางถึงปฎิเสธว่าไม่รู้เรื่อง รวมทั้งมีการแจ้งความตน ซึ่งก็จะได้มีการแจ้งความกลับต่อไป

นายเจษฎา กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากถึง นายภูริ ฯ หากต้องการจะเก็บรักษาเกาะนาคาน้อยให้เป็นป่าที่สมบูรณ์จริงๆ ตนขอท้าให้บริจาคที่ดินแปลงดังกล่าวให้เป็นป่า ซึ่งฝ่ายก็พร้อมที่จะบริจาคที่ดินแปลงของตนเช่นกัน และหากทางกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิในแปลงของตนก็พร้อมที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด เพราะมั่นใจว่า เอกสารสิทธิได้มาถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บิน และไม่บวม อย่างแน่นอน รวมทั้งให้ทางกรมที่ดินประกาศให้ชัดว่าที่ดินบนเกาะนาคาน้อยเป็นที่ดินประเภทใดกันแน่

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านไม่สามารถขึ้นไปชายหาดบนเกาะนาคาน้อยได้นั้น นายเจษฎา กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ว่าฯ ได้ลงพื้นที่เกาะนาคาน้อยเมื่อเร็วๆ และระบุชัดเจนว่า ชายหาดทุกหาดบนเกาะภูเก็ตเป็นที่สาธารณะ ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ชาวบ้านสามารถขึ้นไปใช้พื้นที่ชายหาดได้แล้ว ส่วนที่ดินของบริษัทฯ นั้น ได้ส่งคนขึ้นไปดูแล 2-3 คน โดยปราศจากอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น