"สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ มรณภาพอย่างสงบ

ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) นายพนม ศรศิลป์ บอกว่า ตนได้รับแจ้งจากทางคณะสงฆ์วัดสุทัศเทพวรารามว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภทฺทจารี) เจ้าอาวาสวัดสุทัศเทพวราราม กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ฝ่ายมหานิกาย ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ในเวลา 08.45 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพสิริอายุ 86 ปี พรรษา 64  โดยคณะสงฆ์วัดสุทัศน์ ได้มีการประชุมในเวลา 17.00 น. ถึงการจัดพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการเตรียมสถานที่จัดพิธีศพสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งคาดว่า ทางคณะสงฆ์จะเคลื่อนศพกลับวัดในวันที่ 12 เม.ย.นี้  
สำหรับประวัติ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ มีนามเดิมว่า วีระ รอดบำเรอ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2473  มีภูมิลำเนาที่ บ้านป่าฝ้าย หมู่ที่ 4 ต.เขาแร้ง อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เมื่ออายุได้ 16 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเขาวัง จ.ราชบุรี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2488  และได้เข้ามาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ  ก็เริ่มศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี  โดยในปีเดียวกันก็สอบได้นักธรรมชั้นตรี  ปี 2489 อายุ 17 ปี สอบได้เปรียญธรรม(ป.ธ.) 3 ประโยค  และในเดือนพฤษภาคม 2494 เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเทพธิดาราม โดยมีพระมงคลธรรมรังสี (ปาน อินฺทโชโต) เจ้าอาวาสวัดเทพธิดาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระราชธรรมเสนานี (ศุข สุภทฺโท ) วัดมหาธาตุวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระวิสุทธิโสภณ (ปลอด กมุทฺโท ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร  เป็นพระอนุสาวนา จำพรรษาที่วัดเทพธิดาราม  
เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ตั้งใจศึกษาเปรียญธรรมอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในปี 2504 จึงสอบได้ป.ธ. 9  ซึ่งถือว่า เป็นพระภิกษุที่มีความรู้ทางด้านบาลีในทางพระพุทธศาสนาจนแตกฉาน  จากนั้นในปี 2507 จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดสุทัศน์ โดยได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี สำนักเรียนวัดเทพธิดาราม เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงเป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง โดยในปี 2508 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ และขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ในปี 2527  จนถึงปัจจุบันสมณศักดิ์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์  
2508     สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระศรีวิสุทธิวงศ์  2514     สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชเมธี  2523     สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพเวที2530      สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมปิฏก 2535     สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏ หรือรองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ พระวิสุทธาธิบดี 2553      สมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ  ที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ 2553-ปัจจุบัน  กรรมการมหาเถรสมาคม 
สำหรับสมเด็จพระราชาคณะที่มรณภาพลง จะได้รับพระราชทานเครื่องเกียรติยศประกอบศพตามสมณศักดิ์ ประกอบด้วย น้ำหลวงสรงศพ ไตรครอง โกศไม้สิบสอง ฉัตรเครื่องสูงทองแผ่ลวด แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน