วัดเสือยอมรับเงื่อนไขกรมอุทยานฯ แต่ขอเลี้ยงเสือต่อ 70 ตัว

วานนี้ (23 มี.ค. 59) ที่ห้องไต่สวน 3 ศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะ ศาลนัดไต่สวนคดีปกครอง ระหว่างวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้ฟ้องคดี กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในคดีข้อพิพาทการย้ายเสือโคร่งของกลางจำนวน 147 ตัวไปอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ โดยการไต่สวนครั้งนี้ใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง ในการพูดคุยกับตัวแทนจากกรมอุทยานฯ นำโดยนายยรรยง เลขาวิจิตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุ รักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมทีมทนาย และเจ้าหน้าที่รวม 7 ราย ส่วนตัวแทนจากทางวัด มีนายจำนงค์ เจริญสุข ทนายวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน พร้อมเจ้าหน้าที่ 2 ราย

นายวิชัย กูลแก้ว ตัวแทนจากป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน บอกว่า การไต่สวนครั้งนี้มีทางออกร่วมกันที่ดี ภายใต้เงื่อนไขเดิม 3 ข้อคือห้ามขยายพันธุ์ เพาะเสือเพิ่ม, ห้ามนำเสือมาโชว์ และเก็บเงินรายได้ บวกกับเงื่อนไขใหม่ที่จะลดความขัดแย้ง และต้องนำไปที่จะเป็นข้อปฏิบัติจริง กับทั้งสองฝ่ายร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องเสือโคร่งของกลาง ซึ่งทางวัดขอให้กรมอุทยานทำการย้ายออกไปเพียงบางส่วน
โดยวัดจะขออนุรักษ์เสืออย่างน้อย 70 ตัวอยู่ที่วัด ในระหว่างที่การเตรียมขออนุญาตตั้งสวนสัตว์สาธารณะอย่างถูกต้อง และการจัดเตรียมสถานที่คอกเลี้ยงให้เหมาะสม เป็นต้น โดยสรุปถือว่ามีความชัดเจนมากกว่าที่ผ่านมาในแง่ของการปฏิบัติ

ทั้งนี้ ศาลนัดให้ทั้งสองฝ่ายพิจารณาเงื่อนไขทั้งหมดและกลับมาแถลงที่ศาลอีกครั้งภายใน 15 วันข้างหน้า
ขณะที่นายยรรยง บอกว่า ได้รายงานต่อนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแล้วว่ามีการทำข้อตกลงจากผู้รับมอบอำนาจในคดี ต่อหน้าตุลาการศาลปกครองแล้วสรุปว่าวัดจะต้องเริ่มงดกิจกรรมตามเงื่อนไขทั้งหมดในวันที่ 19 เมษายนทั้งการห้ามโชว์เสือ การเก็บรายได้ค่าผ่านประตูและการจำหน่ายตั๋ว ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้กรมเริ่มต้นดำเนินการตามแผนคือการเริ่มขนย้ายเสือของกลางพร้อมกับเข้าไปตรวจสถานที่เพื่อพิจารณาประกอบการตั้งใบอนุญาตสวนสัตว์สาธารณะ โดยเสือที่จะนำไปโชว์ในสวนสัตว์จะต้องชำระเงินตามราคาประเมิน
ส่วนผลทางคดีความ ซึ่งขณะนี้คดีการฟ้องร้องปกครองศาล ได้มีการนัดอีก 15 วันข้างหน้าถ้าผู้บริหารทั้งสองฝ่ายตัดสินใจตามเวื่อนไขได้ก็จะไม่ก็คาดว่าศาลจะมีคำตัดสินออกมาทางใดทางหนึ่ง