ดูทีวีออนไลน์ เนชั่นทีวี
ดูเนชั่นทีวี
อาชญากรรม
ดร.เซปิงโต้ข้อกล่าวหา เฟซออฟสุรชัย
ดร.เซปิง แถลงทั้งน้ำตา โต้ข้อกล่าวหาเฟซออฟ เข้าข่ายหลอกลวง โฆษณาเกินจริง เชื่อ หมอชลธิศ ฟ้องเพราะไม่แนะนำลูกค้าให้ เผย สุรชัย พร้อมโชว์ใบหน้า ยันเป็นคนไทย-ลูกสาว ประจวบ ไชยสาส์น23 ก.พ. - น.ส.เซปิง กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า จากกระแสข่าวที่ผ่านมาทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยประเด็นแรกที่มีการกล่าวหาว่า ตนทำการโฆษณาโครงการดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง เป็นแค่การพูดคุยกับทางรายการที่เชิญไปออกรายการและไม่เคยพูดชื่อแพทย์ศัลยกรรมท่านใดหรือพูดชื่อโรงพยาบาลใดเลย ประเด็นที่สอง สำหรับที่ใช้ชื่อโครงการเฟซออฟ มันเป็นเสรีภาพไม่มีคำจำกัดความใดและความหมายของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไป ทั้งนี้ ตนไม่เคยพูดถึงวิธีการขั้นตอนการทำศัลยกรรมกับสื่อใด แต่มีสื่อออนไลน์สื่อหนึ่งเอาไปลงจึงทำให้ตนเกิดความเสียหายและตอนนี้ก็ทราบแล้วว่าเป็นสื่อใด ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่แพทย์ศัลยกรรม เป็นเพียงที่ปรึกษาด้านความงามเท่านั้นตอนนี้เราคงต้องรอว่าการผ่าตัดของคุณสุรชัยจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่มากล่าวหากันว่าทำไม่ได้จริง คุณสุรชัยเองก็ยังอยู่ในระหว่างการดูแลตัวเอง ก็คงต้องรอกันสักระยะหนึ่งอีกไม่นานนักค่ะ และหลังจากที่คุณสุรชัยออกมาแล้วเขากระชากวัยได้จริง เขาดูหนุ่มขึ้นจริง เขาดูดีขึ้นจริง หมอชลธิศจะว่าอย่างไรคะ น.ส.เซปิง กล่าวน.ส.เซปิง กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดโครงการเฟซออฟ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงฝีมือแพทย์ในไทย และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมของเอเชียแปซิฟิก ตนและหมอชลธิศ เคยร่วมงานเป็นระยะเวลา 1 ปี เมื่อมีลูกค้าเข้ามาสอบถามถึงการทำศัลยกรรม ก็จะแนะนำลูกค้าไปให้หมอชลธิศ แต่ภายหลังได้มีการแนะนำให้กับหมอคนอื่น จึงไม่แน่ใจว่าทำให้หมอชลธิศเกิดความไม่พอใจหรือไม่ แต่ขอยืนยันว่าไม่มีการขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นที่สามสำหรับความหมายของคำว่า เฟซออฟ นั้น หมายถึง สุรชัย สมบัติเจริญ โดยหลังจากเข้าโครงการดังกล่าวแล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไรนั้น คือ เฟซออฟ เพราะจุดประสงค์ของนายสุรชัยคือ ต้องการมีใบหน้าที่หนุ่มลง และกระชับขึ้น ยืนยันอีกครั้งว่าจะจัดทำโครงการเฟซออฟนี้ต่อไป และจะทำให้ดีที่สุด ตนกับทนายความได้รวบรวมหลักฐานไว้แล้ว เพื่อที่จะไปร้องยังแพทยสภาสำหรับคุณสุรชัย เซปิงต้องแนะนำให้กับคุณหมอท่านอื่น ซึ่งไม่ใช่หมอชลธิศ ส่วนที่กล่าวหาว่า เซปิง ไม่ใช่คนไทย ถ้าไม่ใช่คนไทยจะจบปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ได้อย่างไร น.ส.เซปิง กล่าวระหว่างนั้น น.ส.เซปิงได้นำภาพผลงานศัลยกรรมขึ้นมาให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมกับบอกว่า นี่เป็นรูปถ่ายผลงานของคุณหมอชลธิศ เราก็ไม่ได้บอกว่าหมอชลธิศมีฝีมือที่เก่งหรือไม่เก่งนะ แต่ก็อยากจะให้เห็นว่าถ้าเป็นฝีมือของคุณหมอท่านอื่นแล้วทำออกมาเป็นแบบนี้พร้อมกับโชว์รูปอีกรูปขึ้นมาให้ดู พร้อมกับบอกว่า นี่เป็นคนคนหนึ่งที่ได้รับคำปรึกษา แล้วเซปิงก็ได้ทำให้เขามีความสุข นี่เป็นความสุขในด้านหน้าที่ที่ให้คำปรึกษาแก่ทุกคนที่ต้องการมีความสุขและดูดีทุกคนที่เข้ามารับการปรึกษากับเซปิงต้องการให้ตัวเองดูเด็กลง ดูหน้าตึง คำว่าเด็กลง คือ หน้าต้องตึงจริง ตอนที่คุณสุรชัยมาปรึกษา ก็จะแนะนำให้ดีที่สุดเท่าที่คุณสุรชัยอยากดูหนุ่ม ก็ให้คำปรึกษาไปต้องทำหลายจุด ส่วนวิธีการทำอาจต้องรอให้คุณหมอออกมาตอบว่า ทำอะไรให้คุณสุรชัยบ้างน.ส.เซปิง กล่าวด้วยว่า เวลามีคนมาปรึกษา ก็จะวิเคราะห์ถึงความสามารถฝีมือของคุณหมอเป็นอันดับแรก คุณหมอท่านใดก็แล้วแต่ที่เราจะแนะนำ คนเข้ามาปรึกษาต้องเหมาะสมกับแพทย์ท่านนั้น แพทย์ท่านนั้นจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จบศัลยกรรมตกแต่งความงามมาจริงๆ และมีจริยธรรม คุณธรรม มีศีลธรรม รวมถึงราคาเหมาะสม นี่คือหลักเกณฑ์ในการเลือกคุณหมอไทยให้กับคนไทย ราคาก็จะวัดจากสิ่งที่ควรเป็นจริง ไม่ใช่ตั้งราคาขึ้นมาเพราะว่าหมอท่านนี้อาจจะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็จะตั้งราคาสูงมาก ทำให้คนที่อยากจะทำให้ตัวเองดูดีหมดโอกาส"ที่ผ่านมา ได้แนะนำให้ไปที่คลินิกของหมอชลธิศ แต่เซปิงได้ค่าปรึกษาด้วยหรือเปล่า ไปถามคุณหมอชลธิศดู ถ้าเหตุการณ์ในครั้งนี้เซปิงแนะนำคุณสุรชัยให้หมอชลธิศ ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้หรือเปล่า น.ส.เซปิง กล่าวน.ส.เซปิง บอกว่า ถามว่านายสุรชัยจะมีใบหน้าที่เหมือนคนวัย 35 ได้จริงหรือเปล่า อันนี้ต้องรอดูว่าจะกระชากวัยและดูดีขึ้นจริงหรือเปล่า อีกไม่นาน จริงๆ ตอนนี้ก็พร้อมแล้ว เพียงแต่ว่าเกิดกระแสข่าวลบจากตัวเซปิงเยอะมากๆ ก็เลยรอเวลาให้นายสุรชัยออกมา อีกไม่กี่วันน.ส.เซปิง บอกด้วยว่า ส่วนที่มีคนบอกว่าตนไม่ใช่คนไทยและเป็นอะไรกับนายประจวบ ไชยสาส์น นั้น บอกได้เลยว่า เซปิง เป็นชื่อตามบัตรประชาชน และก็เป็นลูกของนายประจวบ ไชยสาส์น ที่นามสกุลสะกดไม่ตรงกัน อันนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อต้องการให้เขียนแบบนี้ เป็นเหตุผลของครอบครัวด้าน นางทองพูล ไชยสาส์น อดีตภรรยาของนายประจวบ ซึ่งพูดเพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้อยู่กทม. มาดูแลบ้านให้ลูกชาย (นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น) ซึ่งเดินทางไปต่างประเทศพร้อมครอบครัว ส่วน ดร.เซปิง ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่ญาติ และไม่ใช่ลูกของตนด้วย อีกทั้งนามสกุลก็สะกดคนละตัว แต่อ่านออกเสียงเหมือนกัน และยืนยันว่า ดร.เซปิง ไม่ใช่ญาติอย่างแน่นอนขณะที่ นพ.ชลธิศ เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สมเด็จเจ้าพระยา ได้เชิญไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ชี้ตัวเกี่ยวกับ ดร.เซปิง เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนชื่อหลายรอบ ส่วนรายละเอียดคงต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน โดยการแจ้งความก่อนหน้านี้เป็นเรื่องของการโฆษณาโอ้อวด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิด ไม่สามารถโฆษณาได้ ส่วนที่ ดร.เซปิง อ้างว่าเป็นหลานของตนนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ และตนก็ไม่ติดใจกรณี ดร.เซปิงแถลงข่าวโดยนำภาพคนไข้มาเปรียบเทียบ และอ้างว่าเป็นฝีมือของตน ส่วนจะถือว่าละเมิดสิทธิหรือไม่ ต้องขอปรึกษาทนายก่อนด้าน น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งกมล ที่ทำศัลยกรรมให้นายสุรชัย มีความเกี่ยวข้องกับ ดร.เซปิง หรือไม่ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ยังไม่พบว่าสถานพยาบาลดังกล่าวออกมาคัดค้านหรือเห็นด้วยกับการโฆษณา จึงถือว่าเป็นการยินยอมให้โฆษณา ดังนั้น ผิดมาตรา 38 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีความผิดปรับเงิน 2 หมืื่นบาท และปรับเพิ่มวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อนุกรรมการโฆษณาของ สบส. จะชี้ขาดโทษอีกครั้งในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ส่วนกรณี ดร.เซปิง มาให้ข่าวว่าเฟซออฟเป็นเพียงโครงการเท่านั้น ไม่ใช่เทคนิคการทำ เป็นหน้าที่ของ สคบ.ดูแลเรื่องนี้ แต่การใช้ชื่อโครงการก็เหมือนเป็นการสื่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้อนุกรรมการจริยธรรมของแพทยสภาพิจารณา ว่า นพ.กมล พันธ์ศรีทุม ผู้ทำศัลยกรรมให้นายสุรชัย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือเกี่ยวข้องใดๆ กับ ดร.เซปิง หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาเกี่ยวกับเรื่องของการโฆษณาเกินจริง ซึ่งขณะนี้พบมาก โดยจะมีการหารือว่าจะมีแนวทางป้องกันอย่างไร โดยเฉพาะการโฆษณาทางการแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะมีการร่างกฎเกณฑ์มาตรฐานการทำศัลยกรรมว่า การทำศัลยกรรมแต่ละเรื่องต้องมีมาตรฐานอะไร สามารถทำอะไรได้บ้าง เป็นต้นสำหรับการโฆษณาสถานพยาบาล น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า สามารถกระทำได้ 6 เงื่อนไข คือ 1.การโฆษณาชื่อและที่ตั้ง ส่วนคุณวุฒิผู้ประกอบวิชาชีพ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ 2.การโฆษณาบริการทางการแพทย์ ให้แจ้งเฉพาะบริการที่มีในสถานพยาบาล วันเวลาที่ให้บริการ 3.การโฆษณาแจ้งอัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการที่มีในสถานพยาบาล 4.การโฆษณาอัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการที่มีเงื่อนไข จะต้องแจ้งรายละเอียดของเงื่อนไขการโฆษณาให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าก่อนให้บริการ กำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดให้ชัดเจน 5.การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการทางการแพทย์และเผยแพร่งานวิจัย ต้องระบุคำเตือนไว้ว่ามีความเสี่ยงของการไม่ได้ผลหรืออาจเกิดอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียง โดยขนาดอักษรต้องเท่ากับตัวอักษรที่โฆษณา และความเร็วของเสียงต้องไม่เร็วไปกว่าเสียงปกติ และ 6.การโฆษณาเพื่อแจ้งข่าวสารแก่ประชาชน เช่น แจ้งทำลายเวชระเบียน แจ้งย้ายสถานที่ แจ้งกิจกรรมในวันสำคัญ
ข่าววิดีโอล่าสุด