svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บรรยิน" ยื่นหนังสือ ให้สอบผู้พิพากษา

6 ส.ค. -- บรรยิน ร้อง ประธานศาลฎีกา ก.ต.ศาลยุติธรรม สอบจริยธรรมผู้พิพากษาอาวุโสเอี่ยวคดีเสี่ยชูวงษ์ มั่นใจหลักฐานพร้อม เผยไม่หวั่นถูกฟ้องกลับ - ตร.เล็งออกหมายจับเอี่ยวโอนหุ้น ย้ำชัดไม่เกี่ยวโอนหุ้น


ที่ศาลฎีกา ถ.แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ เดินทางมายื่นหนังสือและเอกสารหลักฐาน ถึงนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เพื่อขอให้ก.ต.ได้ตรวจสอบจริยธรรมและการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสท่านหนึ่ง เนื่องจากมีการตั้งข้อสงสัยว่าให้คำปรึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

โดยการยื่นหนังสือดังกล่าว มีนายอิทธิ มุสิกะพงษ์ รองเลขาธิการประธานศาลฎีกา เป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งนายอิทธิ กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าว เสนอประธานศาลฎีกา ตามขั้นตอนต่อไป


ด้านพ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า การยื่นเพื่อให้มีการสอบสวนพฤติการณ์เรื่องประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมของผู้พิพากษาอาวุโสท่านหนึ่ง โดยระบุรายละเอียดการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและการผิดจริยธรรมไว้ทั้งหมด และมีพยานบุคคลโดยยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล แต่ให้เป็นหน้าที่ของ ก.ต.เป็นผู้ตรวจสอบ


พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวด้วยว่า ผู้พิพากษาอาวุโสคนดังกล่าว มีความสนิทสนม กับครอบครัวของนายชูวงษ์มานาน ต้องไปถามครอบครัวนายชูวงษ์เองว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไร ซึ่งตนก็เคยพบและพูดคุยกับผู้พิพากษาอาวุโสท่านนี้ ที่บริษัทของนายชูวงษ์หลายครั้ง ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ก็ไม่กลัวว่าจะถูกฟ้องกลับ เพราะที่ตนมาก็ต้องมีพยานหลักฐานที่มั่นใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานที่นำมายื่นให้ ก.ต.สอบจริยธรรมมีภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวหรือไม่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า มีถ้าไม่มั่นใจก็ไม่มา ซึ่งถ้าไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บริษัทครอบครัวชูวงษ์ก็จะทราบว่าเป็นใคร ถ้าครอบครัวของนายชูวงษ์ยังไม่ลบภาพก็ขอให้นำมาเปิดเผย หรือจากภาพถ่ายในงานศพถ้าย้อนไปดูจะรู้ว่าเป็นใคร หลังจากนี้ตนมีหนังม้วนสอง ที่จะนำออกมาเปิดเผยอีกว่าคนนั้นทำผิดอะไรบ้าง

สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ก่อนเสียชีวิตนั้น พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า ตนไม่ได้กลัวอะไร เพราะความจริงที่ออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และการจะออกหมายจับใครเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องมีหลักฐานที่มั่นคง หากตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานไม่รัดกุม ก็อาจจะสะท้อนกลับไปที่ตัวเจ้าหน้าที่เองได้เช่นกัน

ส่วนการตั้งข้อสังเกตเรื่องรถยนต์คันเกิดอุบัติเหตุว่า ตนขอรถจากตำรวจกลับไป และนำมาคืนในวันต่อมานั้น ขอชี้แจงว่าพนักงานสอบสวน ได้แจ้งกับตนว่าตรวจสอบรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตนจึงเรียกให้บริษัท ยกรถไปซ่อมแต่ยังไม่ทันข้ามวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะขอตรวจสอบรถอย่างละเอียดอีกครั้ง ตนจึงนำรถกลับมาส่งคืนโดยทันที และยืนยันว่าช่างที่อู่รับซ่อมรถรวมถึงตัวเองยังไม่ได้แตะต้องรถยนต์


ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่ญาติของนายชูวงษ์ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนในหลายพื้นที่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะความจริงก็มีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้