นศ. ปี 2 ม.แม่โจ้ ทำปะทัดยักษ์เตรียมรับน้อง พลาดท่าเกิดระเบิด อาการสาหัส

เวลา 12.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.58) พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ปันดี พงส.สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุปะทัดยักษ์ระเบิดภายในบ้านเลขที่ 175/5 ซอยเข้าหมู่บ้านทุ่งหมื่นน้อย หมู่ 9 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จึงรุดเข้าสอบตรวจยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ค่ายสมเด็จพระบรมราชชนนี โดยบริเวณจุดเกิดเหตุ พบนายนำพล ศิลปพงษ์ไพร นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ สาขาวิขาส่งเสริมการเกษตร ปีที่ 2 นอนโอดครวญอยู่บนพื้น สภาพมือซ้ายขาด และขาซ้ายอยู่ในสภาพแหลกละเอียด โดยเบื้องต้นทราบว่าคนเจ็บได้ทำประทัดเพื่อใช้ในงานรับน้องใหม่ ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่พลาดท่าเกิดระเบิดขึ้น แรงอัดของระเบิดทำให้กระจกและฝ้าเพดานของบ้านพังเสียหายล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และพบว่าอาการยังคงสาหัสและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
จากการสอบถามผู้ดูแลหอพักที่อยู่ติดกับบ้านเช่าของนายอำพล ทราบว่ามีกลุ่มนักศึกษา ประมาณ 5-6 คนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ได้ประมาณ 10 วัน ซึ่งเป็นบ้านเช่า 2 หลังติดกัน และเช่าบ้านในราคาเดือนละ 6000 บาท โดยในระหว่างนั้น ด้านกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 ค่ายสมเด็จพระบรมราชชนี ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า มีระเบิดเสียงแบบทำเองหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็ก 1 นิ้ว ไปจนถึงขนาดใหญ่ 6 นิ้ว รวม 13 ลูก ซึ่งไม่ทราบว่าที่ระเบิดไปแล้วจำนวนกี่ลูก สำหรับระเบิดแบบนี้จะจุดชนวนด้วยกระแสไฟฟ้า มีระยะการระเบิดประมาณ 15-20 เมตร ถ้าหากอยู่ในระยะดังกล่าว อาจทำให้มีอาการหูอื้อตาลาย แต่ไม่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ แต่สำหรับผู้ที่ถูกแรงอัดของระเบิดครั้งนี้มีอาการสาหัสเพราะอยู่ใกล้ชิดกับระเบิดมากเกิดไป แต่อย่างไรก็ตามสำหรับระเบิดในลักษณะดังกล่าวหากมีเพิ่มโลหะเข้าไปก็สามารถประยุกต์เป็นระเบิดแสวงเครื่องได้
ด้านพ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ปันดี พงส.สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่กล่าวว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด โดยแพทย์ต้องตัดมือซ้าย และขาซ้ายท่อนล่างทิ้ง เนื่องจากสภาพแหลกละเอียดและไม่สามารถใช้การได้ อีกทั้งอาการของนายนำพล ศิลปพงษ์ไพร ยังคงบาดเจ็บสาหัส ซึ่งสำหรับนายนำพลนั้น ยังโชคยังดีที่ไม่เสียชีวิต โดยจะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ตนจึงใคร่ขอเรียนประชาชนหรือนักเรียนนักศึกษาที่คิดจะทำปะทัด ขอให้หยุดเสีย เนื่องจากอะไรก็ตามที่มีดินปืนหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับปะทัดและระเบิด ย่อมเป็นสิ่งที่อันตรายทั้งสิ้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญหรือชำนาญด้านปะทัดเองก็ยังเคยพลาดกันมานักต่อนัก อีกทั้งหากพบว่าผู้ใดมีการทำปะทัดหรือระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาติก็อาจจะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน และดอกไม้เพลิง มาตรา 47 มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์และเตือนประชาชนให้ระมัดระวังถึงนี้กันต่อไป