สมพงษ์ เปรมทอง พนักงานขับรถโดยสาร ที่ทำงานมานานนับ 20 ปี เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ เพื่อป้องกันการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 เนื่องมาจากผลการใช้สารเสพติด โดยยินยอมเข้ารับการตรวจจากเจ้าหน้าที่ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อการันต์ตีความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีสารเสพติดในร่างกาย
ก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการตรวจ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หมอชิต และรถตู้บริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยที่วิ่งออกต่างจังหวัด พบว่ามีพนักงานขับรถโดยสารมีปัสสาวะสีม่วง 18 คน จาก 1311 คน จึงวางมาตรการเข้มและเฝ้าระวังอย่างเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะสถานีผู้โดยสารกรุงเทพ สายใต้ใหม่ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมที่มีการลำเลียงยาเสพติดลงสู่ภาคใต้
นี่เป็นจุดตรวจสารเสพติด โดยพนักงานขับรถทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจสารเสพติด ซึ่งถือเป็นมาตรการเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนที่จะมาใช้บริการรถโดยสาร และยังถือเป็นปราการด่านแรกในการสกัดกั้นยาเสพติด
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนคอยเป็นหูเป็นตาและไม่รับของจากคนแปลกหน้า
หากพบว่ามีพบสารเสพติดจริง จะยึดใบอนุญาตขับขี่และไม่อนุญาตให้ขับรถโดยทันที และจะต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติด
คำยืนยันของเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ร่วมกับกรมการขนส่ง /กองกำกับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ยังคงดำเนินการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของพนักงานขับรถโดยสารและยาเสพติดที่ส่วนหนึ่งจะเลือกใช้การลำเลียงในลักษณะฝากไปกับรถโดยสารอย่างเข้มงวด ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม
ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่ในกรุงเทพมหานครที่มีการเข้มงวดเรื่องนี้ ยังมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติด 12 จุด ในพื้นที่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ ที่คาดว่าน่าจะเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดอีกด้วย
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้บริการรถโดยสารเอง ไม่ควรวางกระเป๋าสัมภาระทิ้งไว้ และไม่ควรคลาดสายตา เพราะอาจมีผู้ไม่หวังดีซุกยาเสพติดในกระเป๋าคุณ จนอาจตกเป็นเหยื่อของแก๊งค้ายาเสพติด หากพบเห็นหรือสงสัยว่าจะมีการลักลอบขนหรือค้าขายยาเสพติด สามารถโทรแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. ได้ที่หมายเลข 1386