พิสูจน์นิติเวช "หญิงสาวนิรนาม" ถูกฆ่ายัดกระเป๋าแดงถ่วงน้ำ

พิสูจน์นิติเวช หญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดกระเป๋าแดงถ่วงน้ำ
เผยผลพิสูจน์ นิติเวช หญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดกระเป๋าแดงถ่วงน้ำ พบเสริมจมูก อายุประมาณ 25 ปี สูง 153 ซ.ม.ส่วนผลจำลองเหตุการณ์นำแพะถ่วงน้ำ คลาดเคลื่อน เหตุไม่ใช่ล่องน้ำไหลล่าสุดเวลา 15.00 น.วันนี้ 10 พ.ย.57 เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ แจ้งมายัง พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ว่ากระเป๋าที่ใช้จำลองได้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไวโรจน์ แน่นพิมายสว.สส.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี
และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี โดยประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์นำเรือยนต์ออกไปตรวจสอบ ไปถึงพบว่ากระเป๋าลอยอยู่กลางแม่น้ำ ห่างจากสะพานแม่กลองจุดที่ใช้โยนถ่วงน้ำประมาณ 2 กิโลเมตร และอย่างห่างจากจุดที่พบศพเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ประมาณ 4 กิโลเมตรครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนาย จตุพล ส้มฉุน คนงานกระชังปลาที่พบศพครั้งแรกทาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมีความชำนาญเกี่ยวกับทางไหลของน้ำในแม่น้ำแม่กลองบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เรือหางยาวลากกระเป๋าซากแพะไปทิ้งไว้ห่างจากจุดพบศพหญิงสาวประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการทราบว่ากระเป๋าที่บรรจุซากแพะนั้นจะไหลไปทางที่พบศพหรือไม่ หากใช่ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่รู้ตำแหน่งจุดที่คนร้ายนำศพมาทิ้ง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยภายหลังว่า จากจุดที่เรานำซากแพะขาหมู่ และก้อนหิน หนักประมาณ 50 กิโลเมตรใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทาง แล้วน้ำมาโยนถ่วงน้ำที่สะพานแม่กลอง ผลปรากฏว่าระยะเวลาที่กระเป๋าลอยขึ้นมาประมาณ 24 ชั่วโมง และจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญพบว่าจุดดังกล่าวไม่ใช่ล่องน้ำไหล จึงทดลองขยับมาตรงจุดที่เป็นล่องน้ำไหลตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ และจะรอดูว่าซากแพะที่อยู่ในกระเป๋าจะลอยมาถึงจุดที่พบศพครั้งแรกใช้เวลาเท่าไหร่ และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะออกสอบถามชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำแม่กลองว่า ก่อนวันที่ 6 พ.ย.มีใครเคยพบกระเป๋าใบดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ ซึงจากการสอบถามในเบื้องต้นพบว่า ในเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 5 พ.ย.มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำพบกระเป๋าใบดังกล่าวลอยไปติดกับดงผักตบชวาที่อยู่ใกล้ท่าน้ำหน้าบ้าน แต่ได้ใช้ไม้ผลักออกไป