สำหรับการดำเนินการจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่บนท้องถนนสามารถดำเนินการได้ทันทีหากพบการกระทำความผิด ซึ่งขณะนี้กำลังพลบก.จร.มีอยู่ 1,400 นาย สน.พื้นที่อีก 2,900 นาย ก็จะสามารถกวดขันวินัยได้อย่างรวดเร็วและลดความกระทบกระทั่งกับประชาชนได้อีกด้วย
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคที่พบจากมาตรการจับจริง 5 จอม คือ จอมล้ำ ที่พบว่า หลังกวดขันไปแล้ว รถจักรยานยนต์ไปจอดเบียดแทรก ระหว่างเลนกับรถเก๋ง ทำให้ขณะออกตัวเมื่อได้สัญญาณไฟเขียว เกิดความล่าช้า จึงมีแนวคิดที่จะตีเส้นเครื่องหมายบนพื้นทางเป็นที่ให้รถจักรยานยนต์ขึ้นไปรอได้ด้านหน้า ซึ่งแนวคิดดังกล่าว ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย และเป็นหลักสากลอยู่แล้ว จะไม่มีการกำหนดว่า รถจักรยานยนต์จะสามารถซิกแซกขึ้นไปหยุดรอด้านหน้าได้ ตรงนี้มีกฎหมายรองรับอยู่ อีกทั้งอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่มีความเสมอภาคกัน อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ ก็จะเน้นการรณรงค์ให้ประชาชนได้รับรู้ถึงข้อกฎหมาย ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งนี้เพื่อให้เป็นผลที่ดีกับสภาพการจราจร