พฤติกรรมบริโภคยามากเกินจำเป็นถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกรวมทั้งไทย กำลังเผชิญกับความท้าทาย ในการลดปริมาณและใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ "พาราเซตามอล" ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก ความนิยมบริโภคยาพาราเซตามอลของคนไทยทำให้มีตำรับมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ โดย นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา บอกว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตยาพาราเซตามอล ขึ้นทะเบียนกับ อย. แล้วกว่า 1000 ตำรับ แบ่งเป็น แบบเดียวไม่ผสมยาอื่น 900 กว่าตำหรับ และแบบผสมอีก 500 กว่าตำหรับ
ขณะที่ขนาดปริมาณยามีตั้งแต่ 325 มิลิกรัม จนถึง 600 กว่ามิลิกรัม / เม็ดทำให้การบกินยาโดยไม่ดูปริมาณ อาจส่งผลเสียต่อการทำงานของตับในระยะยาวแม้การกินยาพาราเซตามอลมากเกินจำเป็นจะเริ่มส่งสัญญาณให้ต้องควบคุม แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มมูลค่าตลาดและปริมาณการบริโภคยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนการสั่งซื้อจากองค์การเภสัชกรรม ย้อนหลัง ปี 2554 และ 2555 มูลค่าขายทั้งสองปี ไม่ต่ำกว่าปีละ 500 ล้านบาท ล่าสุดปี 2557 เพียงครึ่งปี ยอดสั่งซื้อพุ่งแตะระดับ 400 ล้านบาท แม้อันตรายจากการกินยาพาราเซตามอลมากเกินปริมาณที่กำหนด จะไม่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่ในระยะยาวแพทย์และเภสัชกรบอกตรงกันว่าอาจทำให้ตับวายได้ ดังนั้นก่อนกินยาแต่ละครั้ง จึงไม่ควรละเลยการอ่านฉลาดและกะปริมาณยาให้เหมาะตัวอย่าง ผู้ใหญ่น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรกินครั้งละไม่เกิน 500-750 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง รวมกันไม่เกินวันละ 4,000 มิลลิกรัม