svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อากาศแปรปรวน กุ้งน็อคน้ำ! ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามอำเภอยางตลาด 3 ตำบลกว่า 1,000 รายอ่วม หลังกุ้งน็อคตายจากสภาพอากาศที่วิปริต รายละ 100-300 กิโลกรัม รายได้สูญรายละ 3 หมื่นถึง 8 หมื่นบาท เรียกร้องส่วนราชการช่วยเหลือ ขณะที่ประมงอำเภอลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย

ที่ศาลาการเปรียญวัด โพธิ์ชัยบ้านตูม ม.4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย  บุญขจร ประมงอำเภอยางตลาด พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม โดยมีนางละมุล  ภักดีนอก ผญบ.หมู่ 4  นายวิรัล  พลช่วย ผญบ.ม.5  นายสเตรสฉัน ภูนาสูง ผญบ.ม.19 และตัวแทนผู้เลี้ยงกุ้งจาก  ต.นาเชือก  ต.เขาพระนอน จำนวน 300 ราย ร่วมลงชื่อและให้ข้อมูลความเสียหาย
นางละมุล  ภักดีนอก ผญบ.บ้านตูม ม.4 กล่าวว่า  เนื่องจากช่วงนี้อากาศวิปริต ทั้งร้อนจัดและมีฝนตก ประกอบกับที่เขื่อนลำปาวหยุดการส่งน้ำ ทำให้กุ้งก้ามกรามของเกษตรกรปรับตัวไม่ทัน เกิดการน็อคตายต่อเนื่องทุกวัน เฉลี่ยเกิดความเสียหายรายละ 100-300 กิโลกรัม มูลค่ารายละ 3 หมื่นถึง 8 หมื่นบาท หรือภาพรวมกว่า 30 ล้านบาท จึงได้รายงานความเสียหายให้ทางอำเภอทราบปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งเป็นอาชีพหลักของพื้นที่ แต่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากภัยธรรมชาติดังกล่าว
ด้านนางบุญรัตน์ รังสร้อย 50 ปี ชาวนากุ้งบ้านตูม ม.4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตนเลี้ยงกุ้ง 10 ไร่ แต่ได้เกิดน็อคตายประมาณ 300 กิโลกรัม ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน ต้องมีหนี้สินเพิ่มและต้องลำบากกู้เงินมาลุงทุนใหม่ อย่างไรก็ตาม อยากวิงวอนให้ส่วนราชการหามาตรการเยียวยาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งด้วย เพราะต้องแบกรับภาระหนักมาก ทั้งราคาพันธุ์ลูกกุ้งที่แพงตัวละ 29 สตางค์ และอาหารกุ้งกิโลกรัมละ 35 บาท ทั้งยังมาประสบปัญหากุ้งน็อคตายจากสภาพดินฟ้าอากาศอีก จึงอยากวิงวอนให้ส่วนราชการควบคุมราคาและเร่งช่วยเหลือด้วย
นายอุทัย  บุญขจร ประมงอำเภอยางตลาด กล่าวว่า "หลังทราบปัญหา ได้ลงพื้นที่สำรวจพร้อมจัดเวทีประชาคม รับฟังปัญหาและความคิดเห็น เพื่อนำข้อมูลรายงานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)ต่อไป ทั้งนี้ จ.กาฬิสนธุ์ มีพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามส่วนมากในเขต ต.บัวบาน ต.นาเชือก และ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด  ประมาณ 1,200 ราย   ที่ถือว่าเป็นแหล่งเลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน จากการรับฟังความคิดเห็นของผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่  ขั้นตอนต่อไปคือการทำรายงานเพื่อนำข้อเสนอและข้อเท็จจริงนำเสนอต่ออำเภอและจังหวัด  และความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามจะต้องมีผู้มาช่วยเหลือ  ซึ่งทางประมงอำเภอยางตลาดจะพยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่" ประมงอำเภอกล่าว
ทั้งนี้ กุ้งก้ามกรามเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของ จ.กาฬสินธุ์  เคยเลี้ยงกันมากในเขต อ.ยางตลาด และ อ.เมืองกาฬสินธุ์  เคยสร้างรายได้กับกับเกษตรกรทั่วจังหวัดมูลค่าปีละนับพันล้านบาท ปัจจุบันราคาจำหน่ายที่ปากบ่อ กิโลกรัมละ 260-300 บาท แต่มีแนวโน้มขาดตลาด เนื่องจากน็อคตายเพราะสาเหตุสภาพอากาศวิปริต และเขื่อนลำปาวที่เป็นแหล่งน้ำสำหรับเลี้ยงกุ้งงดส่งน้ำจากภาวะภัยแล้ง