svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผู้บริหาร MBK ขับเบนซ์ชนพ่อค้าดับ สาหัสอีก 1

19 เมษายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สน.จักรวรรดิ 19 เม.ย.57 — ผู้บริหาร MBK เมาซิ่งเบนซ์ชนพ่อค้าดับ พนักงานเก็บขยะสาหัสอีก 1

สน.จักรวรรดิ — เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 19 เมษายน ร.ต.อ.พรชัย โรจนวิภาต พนักงานสอบสวน สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ บริเวณหน้าตรอกหัวเม็ด ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุพบรถเบนซ์ รุ่นซีแอลเค 240 สีดำ ทะเบียน 1 กญ 752 กทม. สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ห่างไปประมาณ 2 เมตรพบรถ 6 ล้อเก็บขยะของเขตสัมพันธวงศ์ สีเขียว ทะเบียน 77-8748 กทม. บริเวณท้ายรถเก็บขยะมีผู้บาดเจ็บนอนจมกองเลือดอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวส่ง รพ.กลาง ทราบชื่อต่อมาคือ นายทวีป แสนคำ อายุ 27 ปี พนักงานเก็บขยะเขตสัมพันธวงศ์ ห่างกันประมาณ 5 เมตร บริเวณด้านข้างรถขยะฝั่งขวาพบศพ นายสมชาย ขำผิวพรรณ อายุ 57 ปี พ่อค้าขายกระเป๋าใส่โทรศัพท์มือถือที่ตลาดสำเพ็ง อยู่บ้านเลขที่ 6 ซ.เทอดไท 71 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีเหลืองเข้ม กางเกงขาสั้นสีเทา ส่วนผู้ขับขี่รถเบนซ์คันก่อเหตุนั่งอยู่ในรถด้วยอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปที่ สน.จักรวรรดิ เพื่อสอบปากคำ และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายใจดล ไกรฤกษ์ อายุ 61 ปี ผู้อำนวยการฝ่ายตกแต่งในเครือ MBK กรุ๊ป (ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง) อยู่บ้านเลขที่ 102/48 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบสูงถึง 97 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  จาการสอบปากคำ นายสัมฤทธิ์ โตสันเทียะ อายุ 59 ปี คนขับรถขยะ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยพนักงานเก็บขยะอีก 2 คนได้มาจอดรถที่จุดเกิดเหตุเพื่อทำการเก็บขยะ ระหว่างที่ตนอยู่บนรถโดยมีพนักงานเก็บขยะ 2 คนกำลังจะขนขยะขึ้นรถยืนอยู่ด้านท้ายรถทั้งสองข้าง ขณะเดียวกันก็มีพ่อค้าเข็นรถขนของเลียบข้างรถขยะฝั่งซ้าย เพื่อขนของไปขายในตลาดสำเพ็ง จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังโครมอย่างแรงที่ท้ายรถขยะ และทำให้รถกระเด็นจากจุดจอดประมาณ 1 เมตร จึงรีบลงจากรถมาดูพบรถเบนซ์คันสีดำพุ่งมาชน ทำให้นายทวีป พนักงานเก็บขยะบาดเจ็บนอนกองอยู่กับพื้นที่ท้ายรถขยะ ส่วนพ่อค้ากำลังเข็นรถกระเด็นไถลลอดใต้ท้องรถมาเสียชีวิตอยู่ข้างรถขยะฝั่งขวาริมฟุตบาธ ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ แสงสุชา อายุ 44 ปี หลานของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลุง ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถแท็กซี่ขนของที่จะนำมาขายที่ตลาดสำเพ็ง โดยออกจากบ้านมาคนละคัน แล้วมาขนของลงใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนไปเอารถเข็นมาขนของ ตนกับลุงอยู่คนละจุด ก่อนหน้านั้นลุงได้เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อซื้อน้ำดื่มที่ร้านสะดวกซื้อ จากนั้นต่างคนก็ต่างขนของ กระทั่งมีเสียงรถชนอย่างแรง ตอนแรกไม่กล้ามาดู เพราะกลัวจะเป็นคนรู้จัก แต่เมื่อตัดสินใจมาดูก็พบว่าเป็นลุงของตนจริงๆ “ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขายของอยู่กับลุงที่ตลาดสำเพ็งมากว่า 20 ปี ลุงไม่มีครอบครัว แต่เป็นคนขยันหาเลี้ยงตัวเองและพี่น้อง โดยมีน้องชายเป็นคนพิการที่ลุงหาเงินช่วยกันกับญาติๆ ดูแล แต่คิดในแง่ดีคือลุงไปสบายแล้ว เพราะลุงเหนื่อยมาเยอะ และยังรู้สึกแค้นคนที่เมาขับรถมาชนลุง ที่ไม่มีสามัญสำนึกแทนที่จะเป็นห่วงคนกลับห่วงรถของตัวเอง เพราะฉันได้ยินเขาพูดกับตำรวจว่า รถเขาเป็นอย่างไรบ้าง ดูแลดีรึเปล่า ลากรถมาที่ สน.แล้วหรือยัง ฉันได้ยินแบบนี้แล้วแค้นมาก คนที่ตายน่าจะเป็นเขามากกว่า ไม่น่าจะเป็นลุงของฉันเลย” น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ด้าน ร.ต.อ.พรชัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานญาติของผู้เสียชีวิต และญาติของคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถเบนซ์คันก่อเหตุมารับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สน.จักรวรรดิ เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังอยู่ในสภาพมึนเมา ให้การไม่ประติดประต่อ และจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก็เกินกว่ากฎหมายกำหนด เพราะวัดได้ 97 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งจะได้แจ้งข้อหา เมาแล้วขับรถยนต์เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ญาติของนายใจดล ผู้ก่อเหตุเมาแล้วขับจนชนคนเสียชีวิตและบาดเจ็บเดินทางมาที่ สน.จักรวรรดิ โดยญาติที่เป็นผู้หญิงบอกว่ายินดีจะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด และได้ขอบรรดาผู้สื่อข่าวว่าอย่าถ่ายภาพทำข่าว เพราะไม่อยากให้เป็นข่าว เนื่องจากตัวเองเป็นข้าราชการทหารระดับสูง จึงทำให้ น.ส.เยาวลักษณ์ หลานของผู้ตายพูดสวนกลับทันทีว่า ปล่อยให้สื่อมวลชนทำข่าวไป เพราะจะได้เป็นกรณีศึกษา ให้สังคมรับรู้ว่าการเมาแล้วขับทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตของคนบริสุทธิ์ ไม่ต้องมาห่วงชื่อเสียงลาภยศที่มันจะเสียจากความผิดครั้งนี้ ก่อนเกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย ขณะที่นายใจดล ก็รับเพียงสั้นๆว่า ดื่มสุราจากงานเลี้ยงมาจริง แล้วขับรถกลับบ้าน ก่อนมาถึงที่เกิดเหตุก็มีอาการวูบ มารู้ตัวอีกทีก็เกิดอุบัติเหตุแล้ว

logoline