แถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปว่า การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ซึ่งต้องดำเนินการภายใน 5วันนับจากนี้ ซึ่งจะต้องมีความเหมาะสม ไม่ทับซ้อนกับพระราชพิธีสำคัญ โดยรัฐบาลกับกกต.ได้ประสานข้อมูลกันทั้งหมดแล้วและรัฐบาลเชื่อว่าวันเลือกตั้งที่กำหนดจะไม่กระชั้นชิดเกินควร จนกระทบต่อระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองและผู้สมัคร และไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งจะไม่ช้าเกินควรจนเกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชน
แถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่ากระบวนการเลือกตั้งถึงอย่างไรก็ไม่ยาวนานกว่า 150 วัน นับจากวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ผลบังคบใช้อยู่แล้ว โดยจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขราวกลางปีนี้ ตามกำหนดการที่วางไว้เมื่อหลายเดือนก่อน
ช่วงท้ายของแถลงการณ์ รัฐบาลยังขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อย สามัคคีปรองดอง เหมือนช่วง 4 ปีเศษที่ผ่านมา ข้อพิพาทบาดหมางจนนำไปสู่วิกฤติของบ้านเมืองเหมือนในอดีต ไม่ควรย้อนมาหลอกหลอนเราอีก
"พุทธิพงษ์" ยัน รัฐบาลไม่นาจเต็ม ไม่ใช่"รักษาการ"
ด้าน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ บอกว่า แม้จะมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประกาศออกมาแล้ว ในส่วนของรัฐบาลยืนยันว่ายังมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมไปถึงการจัดสรรและบริหารในเรื่องทุกๆ
อย่างเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้เป็นรัฐบาลรักษาการ โดยเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ระบุเอาไว้
ส่วนการเดินทางไป ครม.สัญจร ต้องทบทวนดูอีกครั้งถึงความเหมาะสมว่าควรจะมีต่อไปหรือไม่ คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายแนะนำอีกครั้ง และหากมีรัฐมนตรีลาออก ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าต้องปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
ขณะที่รายการศาสตร์พระราชาทุกคืนวันศุกร์ โฆษกรัฐบาล บอกว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ซึ่งจะเริ่มบางส่วนตั้งแต่ศุกร์นี้ เพื่อให้มีความเหมาะสม เพราะต้องระมัดระวังและละเว้นการพูดถึงนโยบายหรือโครงการที่จะไปกระทบหรือชี้นำให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
4 รมต.นัดถกยื่นใบลาออกหลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
ด้านความเคลื่อนไหวของ 4 รัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.ที่ไปเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เตรียมนัดหารือกันเพื่อกำหนดวันยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง หลังพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งฯประกาศแล้ว
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล ซึ่งรั้งตำแหน่งโฆษกพรรคพลังประชารัฐด้วย บอกว่า 4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐจะมีการหารือร่วมกันในวันที่เหมาะสมที่จะตัดสินใจลาออก แล้วนำเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบ ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทั้ง 4 คน โดยเฉพาะการตามเก็บงานที่ค้างคาอยู่
คุณกอบศักดิ์ ยอมรับด้วยว่า หากไม่ลาออกช่วงนี้ จะทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง เพราะการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้หาเสียงได้ไม่เต็มที่ และการสวมหมวก 2 ใบไม่ใช่เรื่องง่าย คู่แข่งนั้นสามารถวิ่งมาราธอนได้ 24 ชั่วโมง แต่ 4 รัฐมนตรีต้องวิ่งได้เฉพาะช่วงนอกเวลาราชการ
"อุตตม-สนธิรัตน์" เข้าพบ "สมคิด"
ด้านความเคลื่อนไหวของ คุณอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าพบ คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และหารือกัน 3 คน คาดว่าเป็นเรื่องการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งจะกระทบกับการทำงานของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล
ภายหลังการประชุม คุณสนธิรัตน์ เดินหนีนักข่าวไปขึ้นรถ ส่วนคุณอุตตม บอกกับนักข่าวนั้นๆ ว่า "อีกไม่นานก็จะรู้" โดยมีรายงานว่า ทั้ง 4 รัฐมนตรีอาจประกาศลาออกภายในสัปดาห์นี้