ชาวมุสลิม ร้องเมียนมาร์ หยุดความรุนแรง

นี่คือเสียงของนานู มูฮัมหมัด 1 ในชาวโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ ที่มาอยู่ในประเทศไทยหลายปีแล้ว นานูบอกว่าแม้จะเปลี่ยนรัฐบาล ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในยะไข่ก็ยังไม่เคยจางหายไปHuman Rights Watch เผยว่า ความรุนแรงครั้งล่าสุดในยะไข่ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย และยังเผยภาพถ่ายจากดาวเทียม ที่พบว่า หมู่บ้านชาวโรฮิงญากว่า 1,200 หลัง ถูกรื้อถอนไปในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา
บ่าย 2 โมงตรง ของวันที่ 25 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น ของกว่า 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ชาวมุสลิม ได้นัดรวมตัวกัน ที่ด้านหน้าสถานทูตเมียนมาร์ในเมืองนั้น ๆ และทันทีที่น่าฬิกาชี้ที่บ่าย 2 โมง สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี อ่านข้อเรียกร้องหยุดความรุนแรงต่อพลเรือน และขอให้เปิดทางให้ภายนอกเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ได้ และยื่นหนังสือให้กับสถานทูตเมียนมาร์ ด้วยหวังว่าข้อความนี้จะถูกส่งไปยังรัฐบาลชุดใหม่ ที่พวกเขามองว่า ยังไม่สามารถยุติความเกลียดชังลงได้
ไม่เพียงชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ออกมาเรียกร้องครั้งนี้ สตรีมุสลิมชาวเมียนมาร์ คนนี้ก็เช่นกัน เธอบอกว่า ความรุนแรง มันยืดเยื้อมานานเกินไป และอยากให้ทุกศาสนาอยู่กันอย่างสงบ
แม้เมียนมาร์จะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ ชะตากรรมบนความหวังที่ชาวโรฮิงญาได้ฝากไว้กับนางอองซาน ซูจี กลับยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เสียงของพวกเขาในวันนี้มีเพียงว่า ขอให้ได้อาศัยอยู่ร่วมกับทุกศาสนาอย่างสันติ บนแผ่นดินที่พวกเขาเกิด และได้รับการเรียกว่า "โรฮิงญา" เหมือนเช่นเดิม