svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดคำสาบาน "ลุงพล" ปัดเอี่ยวการตายชมพู่ หากพูดเท็จขอชีวิตวิบัติ

02 มิถุนายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนรอยคำสาบาน "ลุงพล" เมื่อช่วงรอบปีที่แล้ว ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายน้องชมพู่ ระบุหากพูดกล่าวเท็จ ขอให้มีอันเป็นไป และครอบครัวถึงขั้นวิบัติ ส่วนตัวเองจะตายโหงตามน้องชมพู่

ณ นาทีนี้ คงไม่มีข่าวไหนที่มีคนเฝ้าติดตามแบบใจจดใจจ่อ เหมือนข่าวตำรวจจับกุมตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาคดีการตายน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ทั้งที่น้องชมพู่ รู้สึกคุ้นเคยกับ "ลุงพล" เป็นอย่างดี

แต่ก่อนที่คดีจะเดินทางมาถึงจุดนี้ "ลุงพล" เคยพูดสาบานถึง 3 ครั้ง ในช่วงรอบปีที่แล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายน้องชมพู่แน่นอน

เริ่มจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2563 ทาง "ลุงพล" ท้าให้พ่อแม่น้องชมพู่ สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตาย โดยพ่อแม่น้องชมพู่ พูดกล่าวสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วว่า "ไม่ได้ฆ่าลูก หากผิดคำสาบาน ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน"

ขณะที่ตัว "ลุงพล" พูดต่อหน้าหลวงปู่ลิ้น ที่วัดถ้ำภูผาแอก ซึ่งชาวบ้านให้ความนับถืออย่างมาก โดยกล่าวคำสาบานว่า "หากข้าพเจ้ากระทำผิดต่อชมพู่จริง ขอให้ทำลายชีวิตข้าพเจ้า และขอให้มีอันเป็นไปโดยเร็ววันด้วยเถิด"

จากนั้นวันที่ 28 ก.ค.2563 พ่อและแม่น้องชมพู่ พร้อม "ลุงพล" และญาติๆ เดินทางไปที่วัดถ้ำภูผาแอก เพื่อสาบานต่อหน้าหลวงปู่ลิ้นอีกครั้ง คราวนี้ "ลุงพล" ไม่ยอมดื่มน้ำสาบานร่วมกับคนอื่น อ้างว่า กลัวยาสั่ง และทำท่าทางมีพิรุธ ขอแยกสาบานคนเดียว พร้อมปักธูปกลับหัว และหยิบเศษไม้ที่ถูกเผามาเคี้ยว หลังจากทำพิธีเสร็จ

ซึ่งวันนั้น "ลุงพล" กล่าวคำสาบานว่า "ถ้าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นในการตายของน้องชมพู่ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้าจงวิบัติ จงฉิบหาย ขอให้ข้าพเจ้าตายโหงไปพร้อมน้องชมพู่ด้วย"ส่วนครั้งสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2563 "ลุงพล" นำน้ำอัดลม 1 แพ็ก, ไข่ไก่ 1 แผง, ธูป 1 ถุงใหญ่ และอาหารแห้งไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เวฬุวัน ภูหลวง พร้อมกล่าวคำสาบานด้วยสีหน้าไร้กังวลว่า "ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการตาย ของเด็กหญิงอวรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ขอให้ครอบครัวข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ"

จากวันนั้นถึงตอนนี้ "ลุงพล" มีสีหน้าแตกต่างจากเดิมอย่างมาก หลังถูกออกหมายจับ และควบคุมตัวไปสอบ คงต้องมารอดูกันว่า คดีจะจบลงอย่างไร  

logoline