"อนุทิน" เตรียมแผนเปิดประเทศ หลังจากวัคซีนได้ผล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 3 โดยกล่าวว่า การจัดหาวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท ซิโนแวค 2 ล้านโดส ซึ่งได้รับแล้ว 2 แสนโดส ขณะนี้มีการ ฉีดไปแล้ว 30,000 คน จากการติดตามผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม ยังไม่พบอาการแพ้รุนแรงขั้นวิกฤต ส่วนใหญ่จะมีไข้และปวดเมื่อยตามร่างกายเท่านั้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ในการแก้ปัญหา และแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ส่วนตัวนายอนุทิน บอกว่า ฉีดแล้วมา 8 วัน ไม่มีอาการข้างเคียงแต่ยังไม่ปรากฏภูมิคุ้มกัน

โดยวันนี้ที่จะประชุมขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อรับทราบการประเมินสถานการณ์ การฉีดวัคซีนในประเทศ เพื่อเสนอแนวทางให้รัฐบาลพิจารณาปรับมาตรการด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจ การค้า โดยอาจจะมีข้อกำหนดการเตรียมแนวทางจัดทำวัคซีนพาสปอร์ต โดยระบุว่าเมื่อเริ่มมีการฉีดวัคซีนในประเทศแล้ว ต้องกล้าที่จะเปิดประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและผู้เดินทาง หลังจากที่ไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น


ส่วนวัคซีนของ บริษัทแอสตราเซเนกา ในช่วงบ่ายวันนี้กรมควบคุมโรคจะรับวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกาจำนวน 117,000โดส ซึ่งนำเข้ามาเมื่อวันที่ 24กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อทำการตรวจคุณภาพรับรองรุ่นการผลิต เตรียมฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย ย้ำว่าเมื่อได้วัคซีนมาแล้ว จำเป็นต้องใช้อย่างมีคุณค่ามากที่สุด และต้องทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าอัตราการระบาดในแต่ละพื้นที่ลดลงอย่างไร

วัคซีนพาสปอร์ต เป็นอีกหนึ่งมาตาการสำคัญที่รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณาในขณะนี้ หลังจากที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ว่าวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ"วัคซีนพาสปอร์ต" เปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเปิดประเทศแล้ว