"เซ็นทรัลป่าตอง" ปิดชั่วคราว 1 ก.พ.เป็นต้นไป

25 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ผู้บริหาร "ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล" ตัดสินใจปิดบริการ ห้างเซ็นทรัล สาขาป่าตอง เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป 
ทั้งนี้  ห้างเซ็นทรัลได้มีการส่งจดหมายแจ้งผู้เช่าพื้นที่และผู้เกี่ยวข้อง ระบุถึงการปิดห้างเซ็นทรัลป่าตอง ชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ กระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และกระทบโดยตรงต่อบริษัท ฝ่ายบริหารจึงมีความเห็นให้ปิดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2564  จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ในจังหวัดภูเก็ตกลุ่มเซ็นทรัลมีเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเซ็นทรัล เปิดให้บริการหลายแห่ง ประกอบด้วย เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ครบวงจร, เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า, ปอร์โต เดอ ภูเก็ต รวมทั้ง  เซ็นทรัล ป่าตอง ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าแบบสแตนอโลน
สำหรับ "ห้างเซ็นทรัล สาขาป่าตอง" เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2562  โดยใช้งบลงทุนไปกว่า 2,000 ล้านบาทพัฒนาห้าง "เซ็นทรัล ป่าตอง" เป็นสาขาลำดับที่ 23 ของห้างเซ็นทรัล และเป็นสาขาที่ 2 ในภูเก็ต วางกลุ่มลูกค้ามาใช้บริการเป็นชาวไทย 15% ต่างชาติ 85%  ซึ่งต้องการสร้างเซ็นทรัลป่าตองเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของนักท่องเที่ยว

ห้างเซ็นทรัลป่าตองมีพื้นที่ 35,000 ตร.ม. สินค้าและบริการจากไทยแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์กว่า 300 แบรนด์ โดยมีไฮไลต์ อาทิแผนกเครื่องสำอางพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. รวบรวมเครื่องสำอางและน้ำหอมแบรนด์ระดับโลกแผนกชุดชั้นในสตรี พื้นที่กว่า 600 ตร.ม รวบรวมคอลเลกชั่นชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำสตรีแบรนด์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแผนกบุรุษ มีพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. รวบรวมสินค้าสำหรับสุภาพบุรุษทุกสไตล์ ประกอบด้วย 7 โซน กว่า 70 แบรนด์ นอกจากนี้ ยังมีฟู้ดสโตร์ "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์" โซนสินค้า Grab and Go บริการอาหารพร้อมรับประทานสำหรับลูกค้าที่เร่งรีบ สินค้าไทยที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและนิยมซื้อฝากในโซนสินค้า Thai Favourites
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และ "ภูเก็ต" จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทยและทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะฐานลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น
ช่วง 5 ปีก่อนวิกฤติโควิด ภาครัฐและเอกชนได้ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเพื่อผลักดันให้ก้าวสู่เวิลด์คลาสทัวริซึมเดสทิเนชั่น (World Class Tourism Destination) ที่สมบูรณ์แบบ ต่อยอดจุดแข็งของภูเก็ตที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านทัศนียภาพทางทะเลที่สวยงาม หมู่เกาะต่างๆ และอาหารทะเล ทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ด้วยปริมาณมากกว่า 12 ล้านคนต่อปี
และ "ป่าตอง" เป็นเดสทิเนชั่นสำคัญของภูเก็ต แน่นอนว่าเมื่อนักท่องเที่ยวหดหาย กำลังซื้อหลักของสินค้าและบริการต่างๆ หายวูบไปด้วยเช่นกัน
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ