(11 พ.ย.63) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิประบายความอัดอั้นของชาวนา พร้อมระบุข้อความว่า "อีกหนึ่งความเดือดร้อนของชาวนาไทยใครจะเป็นคนแก้" โดยผู้ที่ปรากฏในคลิประบุว่าข้าวเปลือกดังกล่าวเป็นของผู้ใหญ่บ้าน ม.14 บ้านโคกลอย ต.ไทยเจริญ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซื้อมาจากเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งมาหลอกขายให้แต่พอปลูกเสร็จเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายที่สหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่งใน อ.ปะคำ กลับไม่รับซื้อบอกว่าข้าวดังกล่าวไม่ใช่ข้าวหอมมะลิแท้เป็นข้าวแดงปน ทั้งที่เจ้าหน้าที่คนที่มาหลอกขายให้ก็อยู่ที่จุดรับซื้อด้วย แต่กลับบอกว่าไม่ใช่ข้าวหอมมะลิแท้ จึงต้องขนข้าวกลับมาที่บ้านคืน
ชาวนาคนดังกล่าวยังได้ระบายถึงความยากลำบากด้วยว่า ชาวนาลงทุนทั้งปลูก ซื้อปุ๋ย คนที่หลอกทำไมไม่สงสารบ้าง ขายข้าวก็ได้ราคาต่ำอยู่แล้วกลับยังมาเจอแบบนี้อีก ทั้งนี้ยังโชว์กระสอบเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ซื้อมาให้ดูด้วย บอกด้วยว่าคราวหลังใครจะซื้อพันธุ์ข้าวถ้าเจอแบบนี้ ก็ไม่ต้องซื้อจากหน่วยงานรัฐก็ได้ หาซื้อตามหมู่บ้านเก็บไว้เป็นพันธุ์ปลูกก็ได้
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ใหญ่บ้านที่ถูกระบุถึงว่าเป็นเจ้าของข้าวเปลือกดังกล่าว ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ให้ข้อมูลว่า ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่งมาเสนอขายพันธุ์ข้าวให้ บอกว่าเป็นข้าวหอมมะลิแท้คุณภาพดี ตนเห็นว่าคนที่มาเสนอขายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงตัดสินใจซื้อไว้ เมื่อปี 2561 จำนวน 20 ถุงปุ๋ยๆ ละ 25 กิโลกรัม ในราคาถุงปุ๋ยละกว่า 700 บาท โดยปี 61 ปลูกแล้วเก็บเกี่ยวผลผลิตไปขายก็รับซื้อปกติ แต่ปีต่อมาเริ่มมีข้าวแดงปน จึงไปบอกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ยอมชดใช้พันธุ์ข้าวให้ แต่พอมาปี 63 ก็คัดข้าวจากแปลงเก็บไว้เป็นพันธุ์เพาะปลูกอีก แต่พอปีนี้นำไปขายที่สหกรณ์การเกษตรฯ โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็อยู่ที่จุดรับซื้อด้วย แต่บอกว่าไม่ใช่ข้าวหอมมะลิแท้เป็นข้าวปนมา จึงไม่รับซื้อก็ต้องขนกลับมาเก็บไว้ที่บ้านก็เดือดร้อนมาก เพราะนา 10 ไร่ขายไม่ได้แม้แต่กระสอบเดียว