สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีการเผยแพร่วิธีการหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น และกำหนดข้อห้าม ซึ่งสรุปใจความได้ดังนี้
1.ห้ามผู้ใดหรือบุคคลย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์การเลือกตั้งโดยมิชอบ เว้นแต่ กกต.พิจารณาเห็นโดยเป็นเหตุอันสมควร การย้ายตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่มีชื่อสกุลเดียวกันกับเจ้าของบ้าน เพื่อให้บุคคลนั้นมีสิทธิเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ย้ายเข้ามาในทะเบียนบ้าน
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้กับหน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา สถานประกอบการ หรือสถานที่อิ่นใด ที่ กกต.กำหนด ในการย้ายเจ้าหน้าที่ นักศึกษา หรือพนักงานของตน หรือบุคคลที่ กกต.กำหนด เข้ามาในทะเบียนบ้าน ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข กกต. กำหนด
ขณะเดียวกัน มีการโอนย้ายบุคคคลเข้ามาในทะเบียนบ้าน แต่ไม่ได้อาศัยอยู่จริง หรือการย้ายบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของบ้าน
2.ห้ามผู้ใดเรียก รับ หรือจะยอมรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยยชน์อันอาจคำนวณเป็นเงินสำหรับตัวเอง หรือผู้อื่น เพื่อให้ตนสมัครรับเลือกตั้ง
3.ห้ามผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทยเข้ามาช่วยเหลือการเลือกตั้ง หรือกระทำการใดๆ เพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้ง โดยเป็นคุณและโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการช่วยราชการ ตามที่ทางราชการร้องขอ หรือประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั้น
4.ห้ามผู้ใดทำการโฆษณาหาเสียง อันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนเลือกตั้งจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
5.ห้ามจ่ายแจก หรือให้เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใด ให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อจูงใจไปลงคะแนนเสียง หรือออกเสียงลงคะแนน หากผู้ใดมีบัตรประจำประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปไว้ในครอบครอง ระหว่างวันประกาศให้มีการเลือกตั้งถึงวันถัดจากวันเลือกตั้ง ให้ผู้นั้นกระการตามวรรค 1
6.ห้ามผู้สิทธิ์เลือกตั้งเรียก รับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตัวเองและผู้อื่น เพื่อลงคะแนนเลือกหรือไม่ลงคะแนนเลือกผู้สมัคร หรืองดเว้นไม่ลงคะแนนให้กับผู้สมัครใด
สำหรับข้อห้ามของข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
1.หากปรากฏข้อเท็จจริงว่า กระทำการใดๆ มิชอบโดยหน้าที่ หรือใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้สมัครใด ในอันเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร ให้กกต. กรรมการการเลือตั้ง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ กกต.เลือกตั้งมอบหมาย มีอำนาจสั่งยุติหรือระงับการกระทำนั้น แล้วรายงาน กกต. ทราบ
2.ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการทำตามหน้าที่และอำนาจ แต่กรณีมีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว ให้ กกต. มีอำนาจสั่งยุติ ระงับ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขการกระทำดังกล่าว
ทว่า กรณีจำเป็นให้กกต. แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น พ้นจากหน้าที่ชั่วคราว หรือสั่งให้ประจำกระทรวง ทบวง กรม ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ หรือห้ามเข้าเขตเลือกตั้งจนกว่าจะมีการประกาศผลนับคะแนน