svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อาจารย์นิด้าสวนสหรัฐ แกนนำม็อบเตรียมเผ่น..ไม่มั่ว!

05 พฤศจิกายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อีกหนึ่งประเด็นการเมืองที่หลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับกลุ่มแกนนำม็อบ ซึ่งก่อนหน้านี้มีอาจารย์จากนิด้า ได้ออกมาโพสต์ข้อความอ้างว่า มีแกนนำหลายคนได้ขอวีซ่า เพื่อเตรียมจะเดินทางไปสหรัฐฯ และอาจจะขอลี้ภัยทางการเมืองกับทางการสหรัฐฯ โดยบอกว่ามีหลักฐานยืนยันเรื่องนี้ด้วย

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ตอบคำถามที่มีการส่งมาจากโครงการโคแฟค ระบุว่า ขณะนี้ มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนจำนวนมากที่กล่าวหาว่า สหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองของไทย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มีข้อกล่าวอ้างเกี่ยวกับการลี้ภัยทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จโดยสิ้นเชิง ซึ่งข้อกล่าวอ้างดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับกระบวนการลี้ภัยในสหรัฐ เนื่องจากผู้แสวงหาที่ลี้ภัยจะต้องอยู่ในสหรัฐแล้วเท่านั้น จึงจะขอสถานะผู้ลี้ภัยได้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบกระบวนการรับรองสถานะผู้ลี้ภัย คือ U.S. Citizenship and Immigration Services โดยหน่วยงานอื่นของสหรัฐฯจะไม่อาจดำเนินการดังกล่าวได้


จากคำชี้แจงของสถานทูตสหรัฐ "เนชั่น ทีวี" ได้ไปขอสัมภาษณ์ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ซึ่งเป็นผู้ที่โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการขอวีซ่าและขอลี้ภัยของกลุ่มแกนนำคณะราษฎร 2563


อาจารย์ อานนท์ บอกว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเราก็คงได้เห็นหนังสือเดินทางของเด็กๆ กลุ่มแกนนำกันหลายคนแล้ว แต่ตนไม่สามารถระบุได้ว่ามีแกนนำคนใดบ้าง และไม่สามาารถนำหนังสือเดินทางมาเสนอต่อสื่อมวลชนได้ เพราะจะเข้าข่ายความผิดต่อ พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล

อาจารย์นิด้าสวนสหรัฐ แกนนำม็อบเตรียมเผ่น..ไม่มั่ว!



ขณะเดียวกัน ยังได้รับข้อมูลจากคนรู้จักในสหรัฐว่า แกนนำกลุ่มนี้ได้พยายามขอทำเรื่องลี้ภัยทางการเมือง โดยสามารถเดินทางเข้าสหรัฐไปก่อน แล้วค่อยมาทำเรื่องขอลี้ภัยภายหลังได้ หรืออีกช่องทางก็คือ การทำเรื่องผ่าน UNHCR โดยตนเชื่อว่า หน่วยงานด้านการข่าวของกระทรวงการต่างประเทศรับทราบเรื่องนี้แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ต้องการที่กล่าวถึงเรื่องนี้ เนื่องจากอาจจะไปกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

อาจารย์อานนท์ ยังบอกอีกว่า หากถามว่ามีความเป็นไปได้ที่ทางการสหรัฐจะอนุมัติคำร้องของแกนนำผู้ชุมนุมหรือไม่ คงต้องดูตัวอย่างจากม็อบฮ่องกง ซึ่งทางการสหรัฐก็ไม่ได้ดูแลอะไรแกนนำหลังจากการชุมนุมยุติ เพราะไม่สามารถสร้างสถานการณ์จนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับกรณีของไทยก็คงคล้ายๆ กัน


อาจารย์อานนท์ ยังบอกด้วยว่า การเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปศึกษาต่อ ซึ่งเข้าข่าย "ลี้ภัยแบบกลายๆ" เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต โดยเฉพาะแกนนำนักศึกษายุคเดือนตุลาฯ ซึ่งแกนนำแต่ละคนเป็นระดับหัวกะทิของประเทศ เมื่อขอเดินทางออกนอกประเทศ ก็สามารถไปสอบเข้าสถานบันที่มีชื่อเสียงชั้นนำในสหรัฐได้ เพราะสหรัฐเป็นดินแดนที่ต้อนรับคนที่มีความสามารถสูงๆ จะเห็นได้ว่าคนเดือนตุลาฯในสมัยนั้น เมื่อกลับจากต่างประเทศก็กลับมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือตามสถาบันชื่อดังในประเทศไทย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าแกนนำนักศึกษาในอดีต ถือว่าเป็นระดับหัวกะทิ แต่แกนนำม็อบตอนนี้ ตนไม่มั่นใจว่าเป็นหัวกะทิหรือไม่

เมื่อถามถึงทางออกของสถานการณ์การเมืองในบ้านเรา อาจารย์ อานนท์ บอกว่า ดูจะมองไม่เห็นทางออกที่ชัดเจน เพราะการปลุกระดมมวลชนมาจากการการเล่นกับบาดแผลและความคับแค้นในจิตใจ ที่เรียกว่า "ความคับแค้นที่นำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าว" โดยจะเห็นว่า ทั้งฝ่ายม็อบปลดแอกและม็อบฝ่ายปกป้องสถาบันถูกปลุกขึ้นมาด้วยความแผลและความคับแค้นในจิตใจ จน "เส้นความอดทน" ขาดออกจากกัน หลังจากนี้่อาจเกิดการปะทะกัน จนกลายเป็นความรุนแรง และการนองเลือดได้ และท้ายที่สุดจะไปเข้าทางคนที่ถือปืน เพราะอำนาจรัฐอยู่ที่ปลายกระบอกปืน และจะนำไปสู่การประกาศกฎอัยการศึก ต่อด้วยการทำรัฐประหารเป็นบทสรุป

logoline